16 กุมภาพันธ์ 2565 จากกรณีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้รถไม่ทราบชนิด ประกบยิงรถของ ผศ.ดร.ญาณกร โท้ประยูร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางสมบูรณ์ อ.องครักษ์ จ.นครนายก เป็นเหตุให้ นายวัชระ นุชแดง คนขับรถ ตำแหน่งที่ปรึกษานายก อบต. และนายสมชาย ม่วงกาศ ตำแหน่งรองนายก อบต.บางสมบูรณ์ ที่นั่งเบาะหลังคนขับ เสียชีวิต ส่วนนายก อบต.ได้รับบาดเจ็บถูกกระสุนเข้าแขน หัวไหล่ และขา รวม 4 นัด และถากเข้าที่ท้ายทอย 6-7 นัด ขณะนี้รักษาตัวที่โรงพยาบาล เหตุเกิดที่ถนนปากท่อ-บางปรัง หมู่ 2 ช่วงโค้งตายศ ตำบลศรีจุฬา อำเภอเมือง จ.นครนายก เหตุเกิดช่วงกลางดึกเมื่อวันที่14 ก.พ. ที่ผ่านมา
ล่าสุด นาย ประสพโชค นิ่มเรือง รองหัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไทย อดีตนายกอบต.บางสมบูรณ์ 2 สมัย 12 ปี เปิดเผยกับทีมข่าวเนชั่นทีวี ยืนยันว่า ไม่ได้หนีไปไหนหลังตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับเหตุคนร้ายใช้ปืนอาก้าถล่มยิงรถยนต์ของ นายก อบต. บางสมบูรณ์ หลังจากได้ยินชื่อเอ่ยถึง โชค ก็ตกใจมาก เพราะตัวเองไม่ได้เกี่ยวข้องตามที่ถูกกล่าหา
ขณะนี้ตนตกเป็นจำเลยสังคม เเละกำลังให้ทนายความรวบรวมหลักฐานเพื่อฟ้องร้องเอาผิดผู้ที่กล่าวหา เพราะตกเป็นจำเลยสังคม ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง คนในตำบลคิดว่าเป็น นายประสพ โชคหมดแล้ว เพราะมีการพูดถึงชื่อ "โชค"
นายประสบโชค เล่าว่า คืนนั้นได้รับเชิญให้ไปร่วมงานเลี้ยงเเละร่วมคัดเลือกประธานชมรมนายกอบต. เเละได้พบนายญาณกร นายกอบต.คนใหม่ บนเวที ซึ่งนายญาณกรยังได้ไหว้ตน เเต่ว่านั่งคนละโต๊ะ
“ช่วงที่พูดบนเวที ว่า“จะสู้จนเลือดหยดสุดท้าย”นั้น ผมพูดว่า ผมนี่ไก่ชน เเพ้เป็น หัวโขนเราสวมได้ เราก็ต้องถอดวางได้ ผมไก่ชน เลือดหยดสุดท้ายผมก็สู้ ตอนนั้นหมายถึงอีก 4 ปี ที่จะกลับมาลงเลือกตั้งใหม่ ไม่ได้มีนัยอะไร ไม่เกี่ยวข้องกันและย้ำว่า ผมเป็นลูกผู้ชายพอ ไม่คิดจะทำเช่นนั้น กับการเมืองในระดับนี้”
ส่วนกรณีที่มีการกล่าวอ้างว่า เป็นการเสียผลประโยชน์ทางการเมือง เพราะครองพื้นที่ นายกอบต.มาถึง12 ปี นายประสพโชค ชี้แจงว่า ไม่ใช่เรื่องนี้ ตนเองก็จะอยู่เเค่ 2 วาระ ตั้งใจว่าอยู่อีกวาระ ก็จะเลิกเล่นการเมืองเเละทางครอบครัวก็อยากให้เลิกเล่นการเมืองอยู่เเล้ว การหาเสียง ที่ผ่านมาก็ไม่มีการกระทบกระทั่งกัน ถามชาวบ้านดูได้ ส่วนกรณีที่พ่อของนายกฯอบต.บอกว่ามีกระทบกระทั่งกันช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ยืนยันว่าไม่มี ให้ไปถามชาวบ้านดูได้ ซึ่งตัวเองก็จะไปลงพื้นที่ คนละหมู่ ต่างนต่างไป เจอกันก็ยกมือไหว้ตามปกติ
นายประสพโชค กล่าวต่อ ก่อนหน้านี้ เคยไปร้องคัดค้าน คุณสมบัติของนายกอบต. ซึ่งเคยโดนคดีเช็ค ออกเช็ค 8 ล้าน 5 ใบ เเต่ไม่มีเงินจ่าย จึงไปร้องคัดค้านกับ กกต. เพราะเทียบเคียง กับ ส.ส.ที่ไปร้องกับกกต. ซึ่งคล้ายกัน จึงเชื่อว่าจะต้องมีการจัดเลือกตั้งใหม่
ที่ผ่านมามีการเเข่งขันนายกอบต. ก็เคยชนะพ่อ ของนายกฯ ญาณกร เรื่องฟ้องร้องก็ไม่มีอะไรกัน การเเพ้การเลือกตั้งก็ยอมรับมติของประชาชน ต้องถามชาวบ้านว่า เราทำดีมาขนาดนี้ เเต่ต้องเเพ้เพราะอะไร ตนไม่ขอพูด เรื่องการร้องเรียนก็ดูข่าวจาก เนชั่นทีวี ว่ามีส.ส. ร้องศาลรัฐธรรมนูญจนมีการเลือกตั้งใหม่ จึงนำมาเทียบเคียงกันจากที่ถูกตัดสินจำคุกในคดีเช็คฉ้อโกงประชาชน จึงได้ไปร้องคัดค้านเเล้วให้ กกต.ตรวจสอบว่า เขามีคุณสมบัติที่จะสมัครหรือไม่เหมือนกับ ส.ส.ที่ถูกตัดสิน เเล้วยังต้องเลือกตั้งใหม่ โดย กกต.สามารถนำคำพิพากษาของศาลที่พิพากษาสิ้นสุดไว้มาดูได้ ที่จำได้เพราะเขาสู้ 3 ศาล เเละศาลยืนมาตลอดจำคุกจริง
ประเด็นที่ นายญาณกร อ้างว่า ลูกน้องคนสนิท ของนายประสพโชค ถูกร้องเรียนว่า นำทรัพย์สินของทางราชการ ของอบต.ไปใช้ประโยชน์เป็นทรัพย์สินส่วนตน เเละ ป.ป.ช.ก็ชี้มูลความผิดเเล้ว จึงทำให้มีการวางเเผน ลวงไปสังหาร
นายประสพโชค ชี้เเจงว่า ไม่ได้ลวงไปสังหาร เพราะตัวเองไม่ใช่คนเชิญไปร่วมงานเลี้ยง ทางอบต.เป็นคนเชิญ กันเอง ส่วนตัวสนิทกับนายกอบต.ทุกคนในจังหวัด เพราะเป็นประธานชมรมนายกอบต.มา 8 ปี
การที่มีการพุ่งเป้ามาที่ตัวเอง เเละ ตกเป็นจำเลยสังคม จะชี้เเจงอย่างไร นายประสพโชค กล่าวว่า ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ สืบสวนสอบสวนไปเเละเมื่อได้ตัวคนร้าย ก็จะรู้ว่าเป็นใครเเละยืนยันว่าไม่ได้ทำ จะเป็นใครก็ไม่รู้ ไม่เกี่ยวข้อง เเต่สิ่งที่ทำทุกวันนี้คือ คดีจะมาเมื่อไหร่ จะเลือกตั้งเมื่อไหร่ หรือถ้าเขาคุณสมบัติครบถ้วนก็เป็นนายกอบต.ต่อไป การเมืองเล็กๆขนาดนี้ไม่มีผลประโยชน์เเน่นอน ยืนยันด้วยศักดิ์ศรี หลังจากนี้ก็จะรอทนายจัดการ เรื่องที่ทางเขาให้สัมภาษณ์กันออกไป โดยจะทำการฟ้องเพื่อป้องกันศักดิ์ศรีของตัวเอง
ส่วนกรณีที่ผู้เสียหายฝากถึงคนที่ลงมือก่อเหตุอุกอาจว่ากรรมมีจริง นายประสพโชค บอกว่า
ผมก็เชื่อว่ากรรมมีจริง เเละวันนี้ผมก็ได้เห็นเเล้วว่ากรรมมันติดจรวด ยืนยันว่า พ่อเเม่ตัวเองสอนมาดี ไม่เคยโกงใคร เเละ ก็ไม่เคยติดคุก