นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 16.00 น.) พบผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ 131 ราย เป็นการพบในห้องแยกกักโรค 88ราย และพบในเรือนจำสีแดง 43 ราย จึงมีผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ทั้งสิ้น 771 ราย เป็นกลุ่มสีเขียว 87.7% กลุ่มสีเหลือง 12.2% กลุ่มสีแดง 0.1% มีผู้ติดเชื้อรักษาหายสะสม 86,136 ราย หรือ 96.3% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 89,401 ราย โดยไม่มีรายงานการเสียชีวิตติดต่อกันเป็นวันที่ 13 จึงมีผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 190 ราย หรือ 0.21% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด
นายอายุตม์ กล่าวว่า ในวันนี้ พบเรือนจำระบาดเพิ่ม 1 แห่ง คือ เรือนจำจังหวัดชุมพร ซึ่งเป็นเพียงการระบาดซ้ำในแดนบางส่วนเท่านั้น ส่งผลให้มีจำนวนเรือนจำสีขาว 126 แห่ง และเรือนจำสีแดง 16 แห่ง โดยมีเรือนจำสีแดงส่วนหนึ่งที่สามารถลดการระบาดและอยู่ในแผนสิ้นสุดการระบาดของโรค (แผน EXIT) แล้ว จำนวนรวมถึง 9 แห่ง คือ เรือนจำจังหวัดอุทัยธานี เรือนจำอำเภอแม่สะเรียง ทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่น เรือนจำอำเภอหลังสวน เรือนจำจังหวัดระนอง เรือนจำจังหวัดหนองคาย เรือนจำจังหวัดมุกดาหาร เรือนจำจังหวัดภูเก็ต เรือนจำจังหวัดพังงา ซึ่งจะทยอยพ้นจากการระบาดอย่างต่อเนื่องในเร็ว ๆ นี้
ขณะที่การดำเนินการฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขังนั้น ปัจจุบันมีผู้ต้องขังที่ยังอยู่ในเรือนจำและทัณฑสถานได้รับการฉีดวัคซีนจนครบโดสแล้ว จำนวน 248,980 ราย หรือคิดเป็น 91.35% ของจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 272,533 ราย