สหรัฐฯจี้แคนาดาเร่งยุติม็อบรถบรรทุกปิดสะพาน

ทำเนียบขาวของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า อเลฮันโดร มายอร์กาส รัฐมนตรีความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ และพีท บูดิเจจ รัฐมนตรีคมนาคม ยื่นเรื่องต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของแคนาดาเพื่อขอให้ใช้อำนาจของรัฐบาลกลางคลี่คลายสถานการณ์บริเวณพรมแดนระหว่างสองประเทศ หลังจากม็อบรถบรรทุกต่อต้านการบังคับฉีดวัคซีนของแคนาดาปิดสะพานแอมบาสซาเดอร์ ที่เชื่อมระหว่างเมืองวินดเซอร์ในรัฐออนแทรีโอของแคนาดา กับเมืองดิทรอยต์ในรัฐมิชิแกนของสหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 7 ก.พ.และปิดจุดข้ามแดนอีก 2 แห่ง ได้แก่ รัฐอัลเบอร์ตา และรัฐมานิโตบาของแคนาดาตามมา 

สะพานแอมบาสซาเดอร์เป็นเส้นทางข้ามพรมแดนที่มีการสัญจรคับที่สุดของอเมริกาเหนือ และเป็นเส้นทางขนส่งสำคัญในการจัดส่งชิ้นส่วนและอุปกรณ์ป้อนผู้ผลิตรถยนต์ในดิทรอยต์ และการปิดสะพานส่งผลให้ผู้ผลิตรถยนต์บางรายของสหรัฐฯต้องระงับหรือลดการผลิตแล้ว

ทำเนียขาว ระบุว่า ขณะนี้หน่วยงานรักษาชายแดนและศุลากรของทั้งสองฝ่ายกำลังทำงานอย่างเร่งด่วนเพื่อให้สินค้าและบริการสามารถข้ามพรมแดนได้ รวมถึงพิจารณาใช้ทางเลือกอื่นในการขนส่งผ่านเส้นทางบกอื่นๆ  รวมถึงทางอากาศ และทางทะเล 

นอกจากนี้เกรตเชน วิทเมอร์ ผู้ว่าการรัฐมิชิแกน ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้แคนาดาใช้มาตรการที่จำเป็นและเหมาะสมทั้งหมดเพื่อเปิดการจราจรบนสะพานได้อย่างปลอดภัยทันที

ดรูว์ ดิลเกนส์ นายกเทศมนตรีของเมืองวินด์เซอร์ บอกว่า ตำรวจท้องที่ได้รับอำนาจเพิ่มขึ้นเพื่อคลี่คลายสถานการณ์บนสะพาน และหากผู้ประท้วงไม่ยอมสลายตัว อาจต้องใช้กำลังเข้าสลาย แต่ขณะเดียวกันทางเมืองกำลังขออำนาจศาลคุ้มครองชั่วคราวเพื่อให้ผู้ประท้วงย้ายออกไป จนกว่าสามารถเจรจาหาข้อยุติร่วมกันอย่างสันติ 

ขณะที่มีรายงานว่า กลุ่มคนขับรถบรรทุกในสหรัฐฯ จะร่วมสนับสนุนการประท้วงในแคนาดา โดยจะส่งขบวนรถ 2 ขบวนไปยังปิดจุดข้ามแดนเชื่อมรัฐนิวยอร์กกับรัฐออนแทรีโอช่วงสุดสัปดาห์นี้ 

และกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิกำลังจับตาอาจมีม็อบรถบรรทุกเคลื่อนขบวนจากรัฐแคลิฟอร์เนียไปกรุงวอชิงตันดีซีในอีกไม่กี่วันข้างหน้า อาจส่งผลกระทบต่อการแข่งขันซูเปอร์โบวล์ที่จะเริ่มขึ้นในนครลอสแองเจลิสในวันอาทิตย์นี้ และอาจยืดเยื้อจนถึงกลางเดือน มี.ค. รวมทั้งอาจขัดขวางการแถลงต่อรัฐสภาครั้งแรกของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในวันที่ 1 มี.ค.ด้วย