svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

เปิดข้อกฎหมายเตือน "คนปากจัด" ด่าคู่กรณี "โง่" ระวังโทษจำคุก-ปรับเงิน

08 กุมภาพันธ์ 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กลุ่ม "ปากไว" มาอ่านทางนี้! เปิดข้อกฎหมายคำด่าอะไรบ้าง ที่ด่าไปแล้วอาจ "ปากพาซวย" ทั้งติดคุกและถูกปรับเงิน ไม่เว้นคำด่าหยาบคายว่า "โง่" ที่เพิ่งเป็นประเด็นดราม่า "แม่ค้าออนไลน์ดัง" ไลฟ์สดฉะบิวตี้บล็อกเกอร์

จากดราม่าเที่ยวล่าสุด เมื่อ “แม่ค้าออนไลน์ชื่อดัง” ด่าบิวตี้บล็อกเกอร์กลางไลฟ์สดว่า “โง่!!” เนื่องจากไม่พอใจที่อีกฝ่ายรีวิวตลับแป้ง จนโลกโซเชียลพากันติดแฮชแท็ก และกลายเป็นกระแสต่อต้านรุนแรงนั้น

 

นอกจากประเด็น “แม่ค่าออนไลน์ชื่อดัง” ไม่ยอมพูดขอโทษคู่กรณี อีกหนึ่งสิ่งที่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า คำด่าหยาบคายว่า “โง่!!” นั้นมีความผิดตามกฎหมายอาญา “ฐานดูหมิ่น” มาตรา 393

เปิดข้อกฎหมายเตือน "คนปากจัด" ด่าคู่กรณี "โง่" ระวังโทษจำคุก-ปรับเงิน

ซึ่งมาตราดังกล่าว ระบุไว้ว่า ผู้ใดดูหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้า หรือด้วยการโฆษณา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

สำหรับการ “ดูหมิ่น” หมายถึง การดูถูกเหยียดหยาม ทำให้อับอายและเสียหาย เป็นที่เกลียดชัง สบประมาทหรือด่า ส่วนกรณีคำหยาบคายไม่สุภาพ คำแดกดัน คำสาปแช่ง คำขู่อาฆาต คำปรับทุกข์ คำโต้เถียง คำกล่าวติชม ตามปกติวิสัยไม่เป็นการดูหมิ่น โดยการดูหมิ่นนั้น อาจเป็นการกระทำด้วยวาจา กริยาท่าทาง หรือโฆษณาก็ได้ 

 

ทั้งนี้คำด่าว่า “โง่!!” หรือ “ไอ้หน้าโง่” เคยมีคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7572/2542 ซึ่งการที่จำเลยกล่าวถ้อยคำต่อโจทก์ร่วมว่า "มึงเข้าไปในที่ของกูได้อย่างไร กูจะแจ้งข้อหาบุกรุกมึง มึงเป็นผู้ใหญ่บ้านได้อย่างไร ไม่รู้กฎหมาย ไม่รู้หน้าที่ ไอ้หน้าโง่มึงต้องเจอกับกูแน่ที่ศาล" นั้น

 

เห็นได้ว่าสรรพนามที่ใช้แทนตัวจำเลย และโจทก์ร่วมว่า “กูและมึง” เป็นเพียงถ้อยคำไม่สุภาพ ส่วนถ้อยคำในทำนองว่า “โจทก์ร่วมเป็นผู้ใหญ่บ้านไม่มีอำนาจหน้าที่ ไม่รู้กฎหมายและจะฟ้องร้องดำเนินคดีกับโจทก์ร่วม” นั้น เป็นเพียงถ้อยคำต่อว่าโจทก์ร่วมที่เข้าไปในที่ดินของพ่อตาจำเลย โดยไม่ได้รับอนุญาต และแสดงเจตนาที่จะดำเนินคดีกับโจทก์ร่วมเท่านั้น ไม่ใช่ถ้อยคำที่ดูถูกเหยียดหยามโจทก์ร่วม

 

แต่ที่จำเลยว่าโจทก์ร่วม “ไอ้หน้าโง่” นั้น ถ้อยคำดังกล่าวแสดงอยู่ในตัวถึงการหมิ่นเหยียดหยามโจทก์ร่วม แม้จะเป็นการกล่าวถ้อยคำดูหมิ่นโจทก์ร่วม ในขณะที่จำเลยและโจทก์ร่วมทะเลาะกัน ก็ต้องถือว่าจำเลยกล่าวโดยมีเจตนาดูหมิ่นโจทก์ร่วม หาใช่ว่าการกล่าวในขณะทะเลาะกัน จะถือว่าจำเลยมิได้มีเจตนาดูหมิ่น อันจะเป็นการขาดองค์ประกอบความผิด

 

ขณะที่นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความชื่อดัง โพสต์ให้ความรู้ถึงคำด่าหยาบคายว่า “โง่!!” ผ่านเฟซบุ๊กว่า “ไลฟสดด่าคนอื่นว่าโง่ โทษสูงสุดคุก 1 เดือน ปรับ 1 หมื่น”

เปิดข้อกฎหมายเตือน "คนปากจัด" ด่าคู่กรณี "โง่" ระวังโทษจำคุก-ปรับเงิน

ส่วนคำด่าอื่นๆ ที่เคยมีคำพิพากษาในศาลฏีกาว่ามีความผิดฐานหมิ่นประมาท เช่น

 

1."อีดอก” คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2102/2521 เป็นถ้อยคำหยาบคาย ฟังแล้วเข้าใจได้ชัดเจนว่า ผู้ถูกด่าเป็นหญิงไม่ดี จำเลยมีความผิดกฎหมายอาญา มาตรา 393 พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ปรับ 500 บาท

 

2."อีเหี้ย-อีสัตว์-อีควาย” คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5257/2548 นอกจากเป็นคำหยาบคาย ยังเปรียบเทียบผู้เสียหายเป็นสัตว์เลื้อยคลาน-สัตว์สี่เท้า จำเลยมีความผิดกฎหมายอาญา มาตรา 393 พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ภาค 3 ลงโทษปรับ 1,000 บาท

 

3."อีตอแหล” คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8919/2552 เป็นการดูถูกเหยียดหยาม สบประมาท ทำให้อับอายว่าเป็นคนพูดเท็จ จำเลยมีความผิดกฎหมายอาญา มาตรา 393 พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ปรับ 200 บาท

 

4.“ไอ้ระยำ-ไอ้เบื๊อก-ไอ้ตัวแสบ” คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1631/2538 ถ้อยคำเหล่านี้ หากพูดออกไป จำเลยมีความผิดกฎหมายอาญา มาตรา 393 และกระทำให้ผู้อื่นได้รับความอับอายต่อหน้าธารกำนัล กฎหมายอาญามาตรา 397

 

5.“เฮงซวย” คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1623/2551 ซึ่งมีความหมายในทางเสื่อมเสีย จำเลยมีความผิดกฎหมายอาญา มาตรา 393 พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ปรับ 1,000 บาท

 

6.“ผู้หญิงต่ำๆ” คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2256/2537 เป็นคำพูดเชิงเหยียดหยามว่า เป็นผู้หญิงไม่ดี มีศักดิ์ศรีต่ำกว่าผู้หญิงทั่วไป จำเลยมีความผิดกฎหมายอาญา มาตรา 393 ปรับ 1,000 บาท เป็นต้น

เปิดข้อกฎหมายเตือน "คนปากจัด" ด่าคู่กรณี "โง่" ระวังโทษจำคุก-ปรับเงิน

logoline