เฝ้าระวัง"แหลมกระทิง" หวั่นเกิดไฟปะทุอีกระลอก

สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (5 ก.พ.65) นายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า เกิดเพลิงไหม้บริเวณแหลมกระทิง และเริ่มขยายวงกว้าง หลังรับแจ้งได้สั่งการให้งานป้องกันบรรเทาสาธารณภัยฯ เข้าไปยังที่เกิดเหตุ เพื่อระงับเพลิงไม่ให้ลุกลามขยายวงเพิ่มเติม

พร้อมประสานหน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้จังหวัดภูเก็ต สภ.ฉลอง เทศบาลตำบลกะรน ทัพเรือภาคที่ 3 และกำนันผู้ใหญ่บ้าน เข้าร่วมปฏิบัติการ เพราะมีนักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งไม่สามารถกลับลงมาได้ เนื่องจากเพลิงลุกลามปิดเส้นทาง  

เจ้าหน้าที่ให้นักท่องเที่ยว มารอที่บริเวณโขดหินริมฝั่ง ซึ่งห่างจากจุดเพลิงไหม้ในระยะปลอดภัย จากนั้นได้นำเรือยางและเจ็ทสกี งานกู้ชีพฯ รวมทั้งเรือยอร์ชของเอกชนเข้าร่วมช่วยเหลือจนสามารถนำนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติรวม 16 คน ในจำนวนดังกล่าวมีคู่รักไปถ่ายเวดดิ้งกลับเข้าชายฝั่งได้อย่างปลอดภัย

ในการนี้นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้เข้าพื้นที่บัญชาการเหตุการณ์ ด้วย

ขณะเดียวกัน เนื่องจากการเข้าดับเพลิงทำได้ลำบาก เพราะสภาพเป็นเนินเขา มีโขดหิน และหญ้าเป็นส่วนใหญ่ การเข้าพื้นที่มีเฉพาะทางเดินเท้า ประกอบกับเป็นเวลามืดค่ำ จึงทำได้เพียงให้เจ้าหน้าที่ดับไฟป่าจากกรมป่าไม้ และเทศบาลตำบลราไวย์ จำนวนกว่า 10 นาย คอยติดตามและเฝ้าระวัง เพื่อไม่ให้ลุกลาม

ส่วนสาเหตุคาดว่าไว้ 2 ประเด็น คือ เกิดจากอากาศร้อน หญ้าแห้ง ทำให้ติดไฟได้ง่าย และบริเวณนี้จะเกิดเพลิงไหม้หญ้าเป็นประจำทุกปีในช่วงฤดูแล้ง และอาจเกินจากการทิ้งก้นบุหรี่ของผู้ที่เข้าไปเที่ยว

สำหรับความคืบหน้าล่าสุด ตลอดเช้าวันนี้ (6 ก.พ.65) นายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ กล่าวว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาจนถึงเช้า ยังไม่พบเปลวไฟเพิ่มเติม พบเพียงกลุ่มควันอยู่จำนวนหนึ่งแต่ไม่ได้ลุกลามไปยังบริเวณใกล้เคียง และทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของเทศบาลตำบลราไวย์ ยังได้นำสายยางฉีดน้ำของโรงแรมที่อยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุไปดับไฟที่หลงเหลืออยู่ เพื่อจะได้ไม่ลุกลาม คาดว่าหากไม่มีลมกรรโชก ไฟอาจจะดับลงทั้งหมด โดยมีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ในพื้นที่ เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ขณะเดียวกันยังมีการบินโดรนเพื่อตรวจสอบและเฝ้าระวังจุดที่ยังพบควันไฟ รวมถึงทำการประเมินสถานการณ์  

นอกจากนี้ยังได้มีการปิดพื้นที่ดังกล่าวชั่วคราว โดยสั่งการให้เจ้าหน้าที่เทศกิจประจำจุดแหลมกระทิงนำเชือกขาวแดงมาปิดกั้นเป็นสัญลักษณ์ห้ามเข้าพื้นที่ดังกล่าว เพื่อความปลอดภัย 

ภาพ/ข่าว : สาลินี ปราบ จ.ภูเก็ต