เจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐบาลทหารเมียนมาถูกสังหาร 367 ราย

พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย เปิดเผยตัวเลขความสูญเสียจากเหตุรุนแรง นับตั้งแต่การรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ปีที่แล้ว ระหว่างการประชุมของสภากลาโหมและความมั่นคงแห่งชาติในกรุงเนปิดอว์เมื่อวันจันทร์ 

เขาระบุว่ารัฐบาลเผชิญเหตุโจมตีจากผู้ก่อการร้ายรวม 9,437 ครั้ง ช่วงวันที่ 1 ก.พ. 2564 - 20 ม.ค.2565  ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึงเหตุการณ์ลอบสังหาร ที่มีเจ้าหน้าที่ที่ได้รับแต่งตั้งจากรัฐบาลเสียชีวิต 367 คน และบาดเจ็บอีก 336 คน ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ปกครองส่วนท้องถิ่นระดับอำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน และตกเป็นเป้าโจมตีเพราะทำงานให้กับรัฐบาลทหาร 

นอกจากนี้เขาบอกด้วยว่ามีประชาชน 4,338 คน ถูกจับกุมฐานพุ่งเป้าโจมตีเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลทหาร สำนักงานและอาคารนับตั้งแต่รัฐประหารจนถึงวันที่ 20 ม.ค.2565 เสาสัญญาณโทรคมนาคม 456 ต้นถูกทำลาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นของบริษัท Mytel ที่มีกองทัพเป็นเจ้าของ และเป็น 1 ใน 4 ผู้ให้บริการโทรคมนาคมในเมียนมา โดยฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหารต้องการตัดรายได้ที่ไหลเข้าสู่รัฐบาลทหาร

พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย อ้างว่าเหตุโจมตีและจำนวนผู้เสียชีวิตมากมาย เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ตัดสินใจขยายเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินออกไปอีก 6 เดือน รวมถึงอ้างเหตุผลเรื่องสถานการณ์ความไม่แน่นอนในบางพื้นที่ของประเทศ นอกจากนี้เขายังกล่าวโทษว่าพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือ NLD อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีทั้งหลาย โดยบอกว่าสมาชิกและผู้สนับสนุนที่มีแนวคิดสุดโต่งของ NLD ใช้เยาวชนเป็นเครื่องมือ, ก่อตั้งคณะกรรมการผู้แทนสมัชชาแห่งสหภาพ และรัฐบาลคู่ขนานอย่างผิดกฎหมายที่เรียกว่ารัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ เพื่อให้ความช่วยเหลือสำหรับการโจมตีของผู้ก่อการร้ายและชี้นำการเคลื่อนไหวเหล่านี้

ขณะที่ NLD ออกแถลงการณ์เมื่อวันอังคารระบุว่า จะเดินหน้าทำงานร่วมกับผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เพื่อถอนรากถอนโคนเผด็จการทหารให้พ้นไปจากแผ่นดินเมียนมา และคืนอำนาจรัฐให้กับเจ้าของเดิมคือ ประชาชน 

นับตั้งแต่เกิดรัฐประหารเป็นต้นมา รัฐบาลทหารจับกุมสมาชิกพรรค NLD รวม 686 คน ซึ่งรวมถึงอองซาน ซูจี ผู้นำพรรค และประธานาธิบดีวิน มินต์ และสมาชิกรัฐสภาอีก 197 คน นอกจากนี้สมาชิก NLD อีกอย่างน้อย 14 คน เสียชีวิตขณะถูกควบคุมตัวโดยกองทัพ NLD ยังให้คำมั่นว่าจะนำรัฐบาลทหารเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม จากการก่ออาชญากรรมต่อพลเรือน ซึ่งรวมถึงการจับกุมอย่างกว้างขวาง การทารุณกรรม และการฆาตกรรมประชาชนผู้บริสุทธิ์ ซึ่งเข้าข่ายอาชญากรรมต่อมนุษยชาติและอาชญากรรมสงคราม

ข้อมูลจากสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง ระบุว่ามีพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 1,507 ราย จากฝีมือของกองกำลังฝ่ายรัฐบาลทหาร ซึ่งมีทั้งเด็ก นักศึกษา ผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตย นักการเมือง และข้าราชการที่หยุดงานประท้วง และพลเรือนอีกกว่า 11,900 คน ถูกจับกุม