คนละครึ่งเฟส 4 วันแรกคนใช้สิทธิ์ 'เบาบาง'

จากสถานการณ์การระบาดของโควิดสายพันธุ์โอมิครอนที่ส่งกระทบกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ประกอบกับสินค้าอุปโภคบริโภคที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลจึงต้องเติมเงินในกระเป๋าประชาชนเพื่อเพิ่มกำลังซื้อ ผ่านโครงการคนละครึ่งเฟสที่ 4 เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพและกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยเริ่มใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์-30 เมษายน 2565 จำนวน 1,200 บาท ต่อคน ให้กับประชาชนผู้ได้รับสิทธิ์ที่เข้าร่วมโครงการ 29 ล้านคน คาดว่าจะทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 7 - 8 หมื่นล้านบาท

ขณะที่บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยในโครงการคนละครึ่งเฟส 4 วันนี้เป็นวันแรกช่วงเช้าพ่อค้าแม่ค้าบอกว่า ยังไม่ค่อยคึกคักมากนักเพราะประชาชนยังไม่รู้ว่าเริ่มใช้จ่ายได้วันนี้ คาดว่าหลังจากนี้จะเริ่มคึกคักขึ้นเรื่อยๆ เพราะเป็นโครงการที่ช่วยเหลือประชาชนได้จริงและเข้าถึงง่าย ส่วนการใช้งานเป๋าตังและถุงเงินยังไม่พบปัญหาแอปฯล่ม ทั้งนี้ อยากให้รัฐบาลเติมเงินให้ปชช.ทุกเดือนเพื่อกระตุ้นการจับจ่าย เร่งแก้ไขปัญหาสินค้าราคาแพง เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชนที่เพิ่มสูงขึ้นในขณะนี้ และแก้ไขปัญหาปากท้องประชาชนอย่างยั่งยืน

ด้านกระทรวงการคลังยืนยันความพร้อมของโครงการคนละครึ่งโดยธนาคารกรุงไทย ได้ทดสอบระบบการโอนเงินกับธนาคารพาณิชย์ต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมมั่นใจระบบไม่ล่มแน่นอน โดยแนะนำให้ประชาชนโอนเงินเข้า G-Wallet ในเป๋าตังเตรียมไว้ก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงหรือลดความแออัดในช่วงเวลาการใช้สิทธิผ่าน เป๋าตัง พร้อมกันในวันแรก

สำหรับการรับสิทธิ์ในเฟสที่ 4 ประชาชนผู้ได้รับสิทธิ์โครงการคนละครึ่งรายเดิมที่เคยร่วมโครงการจำนวน 27.98 ล้านคน ต้องยืนยันสิทธิ์เพื่อเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 4 ผ่านแอปพลิเคชัน เป๋าตัง ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป โดยจะต้องเริ่มใช้สิทธิ์โครงการคนละครึ่งเฟส 4 ภายในวันที่ 28 ก.พ. 65 หากพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าวจะถูกตัดสิทธิ์ 

โดยสิทธิ์ที่เหลืออาจจะนำมาพิจารณาเปิดให้ลงทะเบียนอีกครั้ง ซึ่งหากยังประสงค์จะเข้าร่วมโครงการฯ จะต้องลงทะเบียนเช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป หากยืนยันสิทธิ์และใช้สิทธิ์โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ครั้งแรกในระยะที่กำหนดสามารถใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 30 เมษายน 2565

ขณะที่ประชาชนที่ยังไม่เคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง สามารถลงทะเบียนใหม่ได้ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 จนกว่าจะครบจำนวนประมาณ 1 ล้านสิทธิ์ โดยสามารถใช้สิทธิ์โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ตั้งแต่วันที่ 17 ก.พ. ถึงวันที่ 30 เม.ย. 65