svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"สนธิรัตน์"ประกาศสานต่อโรงไฟฟ้าชุมชน

24 มกราคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

“สนธิรัตน์”นำคณะตรวจเยี่ยมโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนสมัยนั่งพลังงาน เพื่อนำมาต่อยอดเป็นนโยบายพรรคสร้างอนาคตไทย พร้อมเดินหน้าพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก

24 มกราคม 2565 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ พร้อมด้วย นายสุพล ฟองงาม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และนายวัชระ กรรณิการ์ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย พร้อมคณะ เดินทางพบผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าชุมชน ตัวแทนวิสาหกิจชุมชนปลูกพืชพลังงาน ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งนโนบายพรรคที่เตรียมผลักดัน และสานต่อการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ก่อนทำให้ระบบเศรษฐกิจแข็งแรงเข้มแข็ง ที่ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม

 

"สนธิรัตน์"ประกาศสานต่อโรงไฟฟ้าชุมชน

 

โดยนายสนธิรัตน์ กล่าวว่า โครงการโรงไฟฟ้าชุมชน เป็นหนึ่งในนโยบายที่ได้ขับเคลื่อนในสมัยที่ดำรงตำแหน่งเป็นรมว.พลังงาน ด้วยแนวคิด Energy For All เพื่อให้ประชาชนทุกคนได้เข้าถึงพลังงาน ทั้งการมีพลังงานใช้ และเป็นได้ทั้งเจ้าของธุรกิจพลังงาน ลบภาพกลุ่มทุนผูกขาดธุรกิจพลังงาน การมาพบปะกลุ่มผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าชุมชน และตัวแทนวิสาหกิจชุมชนปลูกพืชพลังงานในครั้งนี้ เพื่อเป็นการติดตามความก้าวหน้าของนโยบายที่ทางกระทรวงพลังงานได้สานต่อ

 

ขณะเดียวกัน เพื่อรับฟังความคิดเห็น ปัญหา และอุปสรรคในการดำเนินโครงการ เพื่อนำไปกลั่นกรองเป็นข้อมูลในการกำหนดเป็นนโยบายพรรคสร้างอนาคตไทยที่เป็นรูปธรรม เพื่อขับเคลื่อนให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนทุกคนอย่างแท้จริง โดยวันนี้ (24ม.ค.) ได้รับการต้อนรับจากกลุ่มบริษัท ศรีโคตรบูรณ์ BCG โดยนายวิชวินท์ ศรีสุชัยจันทร์ และ น.ส.สายทิพย์ แสงสิงห์แก้ว บริษัท ไบโอ-แพลนท์ส รอว์ แม็ททีเรียล จำกัด ซึ่งดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนในจังหวัดนครพนม ซึ่งได้รับมอบหมายให้บริหารจัดการด้านเชื้อเพลิงร่วมกับชุมชนและการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน โดยมีสถานะเป็นวิสาหกิจชุมชนเพื่อสังคม

 

"สนธิรัตน์"ประกาศสานต่อโรงไฟฟ้าชุมชน

 

ทั้งนี้ ได้นำร่องปลูกพืชพลังงานร่วมกับชุมชน 4 แห่ง ได้แก่ อำเภอเมือง นาทม ท่าอุเทน และธาตุพนม โดยถือเป็นโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนที่ตรงตามนโยบายแนวคิดภายใต้ นโยบาย Energy For All ซึ่งจะสร้างรายได้ให้กับวิสาหกิจชุมชนในจ.นครพนม 4 แห่ง กว่า 800 ครัวเรือน จากการขายเชื้อเพลิงพืชพลังงานประมาณ 25-30 ล้านบาทต่อปี ได้รับหุ้นจากโรงไฟฟ้า 10% ซึ่งจะได้ส่วนแบ่งผลประกอบการตามสัดส่วนหุ้น 4% ทุกปี คิดเป็นรายได้สู่ชุมชนประมาณประมาณ 0.6-1 ล้านบาทต่อปี

 

นอกจากนี้ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงวิถีเกษตรกรดั้งเดิมไปสู่การเป็น Smart Farmer และ Human Capital เกิดการสร้างงานสร้างอาชีพในพื้นที่ ซึ่งในอนาคตจะมีการสร้างเป็นศูนย์การเรียนรู้เพื่อต่อยอดไปสู่ชุมชนในจังหวัดอื่น ๆ ทั่วประเทศต่อไป

 

"สนธิรัตน์"ประกาศสานต่อโรงไฟฟ้าชุมชน

"โครงการโรงไฟฟ้าชุมชน เป็นนโยบายที่ผมได้ริเริ่มไว้เมื่อเป็นรมว.พลังงาน ตั้งใจให้เป็นโครงการสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้กับพี่น้องประชาชน วันนี้มาติดตามดูผลของการเกิดโรงไฟฟ้าชุมชน ว่าโครงการสามารถสร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชนในการปลูกพืชพลังงาน ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างรายได้จากการปลูกพืชพลังงาน แต่ยังขยายผลจากการนำพืชพลังงานไปสร้างรายได้เพิ่ม" นายสนธิรัตน์ กล่าว

 

"สนธิรัตน์"ประกาศสานต่อโรงไฟฟ้าชุมชน

 

อย่างไรก็ตาม ซึ่งจะเห็นว่ามีความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน เช่น กรมปศุสัตว์ และ NIA ที่นำหญ้าเนเปียร์มาพัฒนาเป็นอาหารสัตว์ มีการนำมูลสัตว์มาผสมกับหญ้าแล้วอบแห้งเป็นปุ๋ย หรือแม้แต่หญ้าเนเปียร์ที่แก่ เป็นอาหารสัตว์ไม่ได้ ก็นำไปทำเป็นถ่าน ที่เรียกว่าไบโอชาร์ใช้ในการปรับปรุงดินแทนสารเคมี ซึ่งมาดูในสิ่งที่ได้ริเริ่มเอาไว้ และจะนำสิ่งเหล่านี้ไปเป็นแนวทางในการทำเป็นนโยบายพรรคในการหาเสียงต่อไป เพราะโครงการนี้จะเป็นโครงการที่สร้างความยั่งยืนให้ประชาชนฐานรากตามเป้าหมายโครงการ ก่อเกิดวิสาหกิจชุมชน ความร่วมมือของเกษตรกร ผู้ประกอบการโรงไฟฟ้า และภาครัฐที่เข้ามาร่วมกันได้ ที่สำคัญยังช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อม

logoline