กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ออกคำสั่งให้สมาชิกในครอบครัวของบุคลากรทุกคนของสถานทูตสหรัฐฯ รีบออกจากกรุงเคียฟ ของยูเครน ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ไม่จำเป็นก็สามารถเดินทางออกมาได้ โดยรัฐบาลออกค่าใช้จ่ายให้ ทั้งยังเตือนพลเรือนทุกคนให้ตัดสินใจเดินทางออกมาด้วยเช่นกัน แต่ระบุว่า ไม่ใช่คำสั่งอพยพ โดยคำสั่งมีขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้น และความวิตกว่ารัสเซียจะใช้ปฏิบัติการทางทหารบุกยูเครน ขณะที่การเจรจาระหว่างนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กับนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ที่เจนีวา เมื่อวันศุกร์ (21 มกราคม) ก็ไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์คลี่คลายลงแต่อย่างใด
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาส่งทหารสหรัฐฯ หลายพันนาย สนับสนุนโดยเรือรบและเครื่องบินรบ ไปยังประเทศพันธมิตรขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต ในกลุ่มบอลติกและยุโรปตะวันออก โดยเกิดขึ้นหลังจากการส่งมอบความช่วยเหลือด้านความมั่นคงมูลค่า 200 ล้านดอลลาร์ให้ยูเครนเมื่อวันเสาร์
เจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศ เปิดเผยว่า คำสั่งให้เจ้าหน้าที่สถานทูตออกจากยูเครนถูกพิจารณามาก่อนหน้านี้ และไม่กระทบต่อการสนับสนุนที่สหรัฐฯมีต่อยูเครน แต่ได้มีขึ้นท่ามกลางรายงานเมื่อเร็วๆ นี้ว่า รัสเซียวางแผนใช้ปฏิบัติการทางทหารบุกยูเครนและแม้กระทรวงต่างประเทศกล่าวหาประเทศสมาชิกนาโตว่า ทำให้ความตึงเครียดขยายตัวขึ้นด้วยข้อมูลผิดๆ แต่พฤติกรรมของรัสเซียที่ผ่านมา รวมทั้งการผนวกดินแดนไครเมีย และการคุมดินแดนทางตะวันออกของยูเครน ทำให้ไม่อาจคาดเดาได้