ยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด สำหรับปมร้อนพรรคพลังประชารัฐ ที่มีมติขับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และอดีตเลขาธิการพรรค พร้อม ส.ส.ในกลุ่ม 21 ออกจากพรรค โดยนายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เผยถึงสาเหตุว่า เป็นเพราะสิ่งที่ ร.อ.ธรรมนัสขอนั้น ไม่สามารถดำเนินการได้ ซึ่งตามกระแสข่าวระบุว่า ร.อ.ธรรมนัส และกลุ่ม ส.ส. จะย้ายไปสังกัดพรรคเศรษฐกิจไทย (อ่านรายละเอียด) ซึ่งต่อมาพบมี ส.ส.บางส่วนที่ปฏิเสธการไปร่วมกับ ร.อ.ธรรมนัส และยืนยันที่จะอยู่กับพรรคพลังประชารัฐต่อไป
ล่าสุด ช่วงเย็นวันนี้ (21 ม.ค.) ที่พรรคพลังประชารัฐ มีรายงานว่า "นายสมศักดิ์ พันธ์เกษม" ส.ส.นครราชสีมา ซึ่งมีชื่อเป็น 1 ใน 21 ส.ส.ที่ให้ออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ได้เข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค และประธานคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ เรื่อง "ขอให้ทบทวนมติพรรคพลังประชารัฐให้สมาชิกออกจากการเป็นสมาชิกพรรค" โดยมีการชี้แจงประเด็นที่เกิดขึ้น สรุปได้ว่า เป็นการปฏิเสธไม่มีส่วนรู้เห็นและเกี่ยวข้องกับการดำเนินการต่างๆ ของ ร.อ.ธรรมนัส รวมถึงยืนยันไม่ได้ย้ายพรรคเศรษฐกิจไทยตาม ร.อ.ธรรมนัส แต่อย่างใด
นายสมศักดิ์ ยืนยันว่า ที่ผ่านมาพรรคพลังประชารัฐมีความเป็นเอกภาพภายในพรรค หากจะมีการเสนอปรับโครงสร้างพรรคก็เป็นไปเพื่อการสร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ต่อพรรคมิใช่เพื่อเป็นการทำให้พรรคเสียหาย รวมถึงตัวของ ร.อ.ธรรมนัส ก็มีความรักพรรคและปราถนาดีต่อพรรคตลอดมา จึงไม่น่าจะเป็นไปได้ที่ ร.อ. ธรรมนัสฯ จะเสนอให้มีการปรับปรุงพรรคหรือจะกระทำการใดให้มีผลเสียหายแก่หลักการแห่งพรรคพลังประชารัฐทั้งเรื่องเอกภาพ เสถียรภาพ และอุดมการณ์ของพรรค
ดังนั้น หาก ร.อ. ธรรมนัสฯ จะเสนอให้มีการปรับโครงสร้างพรรคจนอาจเกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่พรรคจริงแล้ว ก็น่าจะอยู่ในวิสัยที่หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคจะสามารถเจรจาตกลงหรือแก้ไขปัญหากับ ร.อ. ธรรมนัสฯ ได้ โดยไม่ต้องใช้วิธีลงมติให้ ร.อ. ธรรมนัสฯ กับพวก ออกจากการเป็นสมาชิกพรรคตามข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐแต่อย่างใด และไม่ควรใช้เป็นเหตุผลในการขับไล่ ส.ส.พ้นจากพรรค
อีกทั้งการมีมติให้ตนพ้นจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐรวมไปกับ ร.อ.ธรรมนัสฯ และ ส.ส. 21 คน เป็นข้อกล่าวหาและเป็นความผิดร้ายแรงซึ่งจะเป็นผลกระทบต่อประวัติของข้าพเจ้าและก่อให้เกิดความเสียหายแก่เจ้าอย่างร้ายแรงกรรมการบริหารพรรคจึงควรตั้งคณะกรรมการสอบสวนหรือคณะะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จริงเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ถูกต้องและเป็นธรรมแก่ข้าพเจ้าก่อนว่าข้าพเจ้ากระทำการตามที่ถูกกล่สวอ้างจริงหรือไม่ อย่างไร เพื่อป้องกันการขัดต่อข้อกฎหมายตามรัฐธรรมนูญ จึงขอให้ยกเลิกมติที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคและมติที่ประชุมดังกล่าวโดยด่วนที่สุด