พาณิชย์สงขลาเผยผลตรวจเนื้อหมูห้องเย็นปิติซีฟู๊ดไม่เข้าข่ายกักตุน

ความคืบหน้ากรณีปศุสัตว์สงขลา สั่งอายัดเนื้อหมูกว่า 200,000 กิโลกรัม ภายในห้องเย็น บริษัท ปิติซีฟู๊ด จำกัด เลขที่ 125/1 หมู่ 5 ถนนสงขลา-ปัตตานี ตำบลบ้านนา อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการรับฝาก/ฟรีซทั่วไป หลังจากที่พบว่า ได้มีการนำเนื้อหมูมาเก็บรักษาไว้ที่ห้องเย็นดังกล่าวจำนวน 211,361 กิโลกรัม นานกว่า 3 เดือน กระทั่งเมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2565 เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบเนื้อหมูถึง 201,650 กิโลกรัม 

นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา พาณิชย์จังหวัดสงขลา ปศุสัตว์สงขลาและหัวหน้าด่านกักกันสัตว์สงขลา ได้เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงที่บริษัทฯ ดังกล่าว แต่ไม่อนุญาติให้สื่อมวลชนเข้าโดยบอกว่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เปิดเผย ภายหลังเข้าร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริง ระบุว่า ผู้ที่เช่าห้องเย็นดังกล่าว คือ บริษัท เบทาโกรเกษตรอุตสาหกรรม พัทลุง ซึ่งเป็นผู้ผลิตเนื้อหมูรายใหญ่ ส่วนจะเข้าข่ายเป็นการกักตุนหมูหรือไม่อยู่ระหว่างการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยการสอบสวนจะทำสอบทั้งระบบ เช่น จากบริษัทฯ ต้นทางรวมถึงผู้ให้เช่าด้วย

ด้าน นางสาวฉัตร์สุดา ชุมแสง พาณิชย์จังหวัดสงขลา ให้สัมภาษณ์ว่า สาเหตุที่เข้าตรวจสอบห้องเย็นแห่งนี้ เนื่องจากได้รับแจ้งจากด่านกักสัตว์สงขลา ว่า มีเนื้อหมู มาจากบริษัทแห่งหนึ่งในจ.พัทลุง แจ้งว่า ได้นำเนื้อหมูจำนวน 50,000 กิโลกรัมมาฝากไว้ที่ห้องเย็น จ.สงขลา จากการเข้าตรวจสอบของเจ้าหน้าที่วันนี้ พนักงานห้องเย็นแจ้งว่ามีเนื้อหมูในสต๊อก 200,000 กิโลกรัม ดังนั้น จึงจะต้องตรวจสอบสต๊อกทั้งหมดว่ามีตามที่แจ้งหรือไม่

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเอกสารการควบคุมสต๊อกสินค้าพบว่า ห้องเย็นแห่งนี้ มีการจำหน่ายเนื้อหมูออกไปทุกเดือนโดยมีรายการควบคุมการจำหน่ายแสดงกับเจ้าหน้าที่นั่นหมายความว่าห้องเย็นแห่งนี้ไม่มีความผิดในข้อหากักตุนสินค้าเนื่องจากมีการระบายสินค้าออกเป็นระยะๆ และทุกเดือน แต่จะมีความผิดในเรื่องของการไม่แจ้งสต๊อกสินค้าซึ่งประกาศของกระทรวงพาณิชย์ฉบับที่ 2 กำหนดให้แจ้งสต๊อกสินค้าตั้งแต่วันที่ 10 มกราคมเป็นต้นมา แต่บริษัทไม่ได้แจ้งโดยอ้างว่าไม่ทราบว่ามีประกาศฉบับนี้