วันนี้ (12 ม.ค.) พล.อ.ต.ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีการนำเสนอข่าวว่า ที่ประชุม ครม.เมื่อวานนี้ (11 ม.ค.) ได้อนุมัติกรอบงบประมาณของปี 2566 และการผูกพันงบประมาณที่เกิน 1,000 ล้านบาทของกองทัพอากาศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยรวมทั้งโครงการเป็นการพิจารณาจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีของกองทัพอากาศ เพื่อทดแทนเครื่องบิน F-16 งบประมาณ 13,800 ล้านบาทนั้น
ทาง ครม.ได้อนุมัติจัดซื้อเครื่องบินรบฝูงใหม่ เสนอของบประมาณปี 2566 วงเงิน 13,800 ล้านบาท จำนวน 4 เครื่องแรก จัดซื้อผูกพัน 4 ปี ตั้งแต่ปี 2566-2569 แต่ยังไม่ระบุว่าจะซื้อ F-35
แต่ระบุแค่จัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตี ทดแทน F-16 พร้อมตั้งคณะกรรมการ 2 ชุด คณะกรรมการศึกษาฯ และคณะกรรมการจัดหา เตรียมนำเข้า ครม.ขออนุมัติหลักการและกรอบวงเงินงบประมาณ
โดยคณะกรรมการชุดแรกมี พล.อ.อ.ธนศักดิ์ เมตะนันทน์ รอง ผบ.ทอ.เป็นประธาน และอีกคณะมี พล.อ.อ.พันธุ์ภักดี พัฒนกุล เสนาธิการทหารอากาศ เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตี
“ทั้งนี้ยังไม่มีการตัดสินใจว่าจะจัดซื้อเครื่อง F-35 แต่ผู้บัญชาการทหารอากาศ ได้ตั้งความหวังว่า อยากได้เครื่อง F-35 เพราะราคาลดลงมามาก แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับคณะกรรมการฯ พิจารณาความจำเป็นทางยุทธการว่า ในท้ายสุดแล้วว่าเครื่องขับไล่แบบใดที่จะเหมาะสมกับกองทัพอากาศไทยจะคุ้มทุนหรือไม่ ซึ่งกองทัพพร้อมจะชี้แจงและตอบคำถามในประเด็นเหล่านี้ให้กับทุกภาคส่วนได้ทราบในโอกาสต่อไป”
หลังข่าวดังกล่าวถูกเผยแพร่ สมาชิกโซเชียลเข้ามาแสดงความเห็นหลากหลาย บางคนตั้งคำถามไปถังกองทัพอากาศว่า เหมาะสมหรือไม่ที่จะซื้อเครื่องบินขับไล่ในช่วงเวลานี้ ที่มีปัญหาข้าวของอุปโภคปรับขึ้นราคา หรือภัยจากไวรัสโควิดที่ยังไม่จบสิ้น