svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ธนาธร" ซัดแก๊งอนุรักษ์นิยม-ไอโอ สร้างข่าว "แย่งวัคซีน" ลั่นฟ้องเอาผิด

เดือดแน่ๆ "ธนาธร" โพสต์ร่ายยาวซัดพวกอนุรักษ์นิยม สร้างเรื่อง "แย่งวัคซีนคนแก่" ส่วนพวกไอโอรัฐบาล และกองทัพ พยายามทำให้คนเกลียดชัง ลั่นขอดำเนินคดีเอาผิดตามกฎหมาย

ภายหลังเป็นประเด็นในโลกโซเชียล ช่วงหลายวันที่ผ่านมา จนแฮชแท็กคำว่า “#วัคซีนVIP” ขึ้นติดเทรนด์อยู่ในเวลานี้ ล่าสุดนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก “Thanathorn Juangroongruangkit” ว่า กรณีการรับวัคซีนของผม และการที่รัฐล้วงข้อมูลของประชาชนมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง

 

ผมพยายามอดทนอดกลั้นมาตลอดกับความพยายามที่จะใส่ร้ายป้ายสี ทำลายความน่าเชื่อถือและชื่อเสียงของผม โดยคนกลุ่มหนึ่งที่สนับสนุนเครือข่ายเผด็จการอนุรักษ์นิยม คนกลุ่มนี้ปลุกปั้น แต่งเรื่องไม่จริง พูดซ้ำๆ ทุกวัน เพื่อให้ชื่อเสียงผมเสียหาย เพื่อให้ประชาชนเกลียดชังผม ถึงวันนี้มีคนจำนวนหนึ่งเข้าใจผมผิด เพราะการกระทำของคนกลุ่มนี้

 

ตัวอย่างก่อนหน้านี้ เช่น การที่ผมเดินทางไปแข่งขันกีฬา และเดินทางไปพักผ่อนพร้อมครอบครัวที่ต่างประเทศ คนกลุ่มนี้ก็สร้างข่าวให้ประชาชนเข้าใจผิดอย่างน่าเกลียด พร้อมทั้งร่วมมือกับรัฐเผด็จการ ส่งเจ้าหน้าที่รัฐไปถ่ายรูปผมและครอบครัวที่สนามบิน และนำภาพถ่ายในกระบวนการตรวจคนเข้า/ออกประเทศ มาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ข่าวที่พวกเขาสร้างทำนองว่า ผมวางแผนให้กลุ่มนักศึกษาเยาวชน เคลื่อนไหววุ่นวายในประเทศ ขณะที่ตนเองแอบหนีไปต่างประเทศเงียบๆ

"ธนาธร" ซัดพวกอนุรักษ์นิยม-ไอโอรัฐบาล สร้างเรื่องแย่ง "วัคซีนคนแก่" ลั่นฟ้องเอาผิด

แน่นอนว่าทั้งหมดไม่เป็นความจริง การวางแผนแข่งกีฬากับทีมของผม และการวางแผนพักผ่อนกับครอบครัวนั้น วางแผนกันล่วงหน้าหลายเดือน และไม่ได้ปกปิดใคร เพื่อนฝูงและคนใกล้ชิดก็รู้แผนการเดินทางของผมทั้งหมด และผมไม่ได้มีส่วนร่วมในการวางแผน/ออกแบบ/กำหนดวัน ในการเคลื่อนไหวของกลุ่มประชาชนใด ๆ ทั้งสิ้น

 

ในครั้งนี้ พวกเขากล่าวหาว่าผมแย่งวัคซีนคนแก่ กล่าวหาว่าผมด้อยค่าวัคซีน แต่กลับไปฉีดเสียเอง นำหลักฐานผิดฝาผิดตัว มาผูกเรื่องราวให้ประชาชนเข้าใจว่า ผมใช้อำนาจบาตรใหญ่แซงคิวประชาชน พวกเขาร่วมมือกับรัฐบาลเผด็จการ นำข้อมูลส่วนบุคคลของผม ออกมาเปิดเผยในที่สาธารณะ เพื่อสร้างเรื่องหลอกลวงเหล่านี้”

"ธนาธร" ซัดพวกอนุรักษ์นิยม-ไอโอรัฐบาล สร้างเรื่องแย่ง "วัคซีนคนแก่" ลั่นฟ้องเอาผิด

แน่นอนเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง ผมตระหนักดีถึงสถานะของตนเอง พยายามครองตนให้เหมาะสม และระมัดระวังตัวเองอยู่เสมอ ไม่ให้มีการใช้ความเป็นบุคคลสาธารณะของตนเอง เพื่อได้มาซึ่งสิทธิพิเศษ หากไม่เสพข่าวจากคนกลุ่มนี้เพียงด้านเดียว หาข้อมูลสาธารณะเพียงเล็กน้อย ย่อมจะเห็นว่าข้อกล่าวหาของคนกลุ่มนี้ไม่เป็นความจริงเลย มีการเปิดให้คนทั่วไปฉีดวัคซีนได้ตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนแล้ว

 

คนจำนวนมากที่ไม่ใช่ผู้สูงอายุและผู้ป่วยมีโรคประจำตัว รวมทั้งคนหนุ่มสาวในวัยทำงาน ได้ฉีดวัคซีน AZ แล้วเป็นจำนวนมาก ทั้งในกรุงเทพ สมุทรปราการ และจังหวัดสีแดง คนที่ได้ฉีดวัคซีน AZ ในเดือนกรกฎาคมไม่ได้แย่งคนแก่ฉีดแน่ๆ ที่ผมฉีดที่สมุทรปราการ เพราะใกล้บ้าน บ้านผมอยู่รอยต่อระหว่างกรุงเทพและสมุทรปราการ ข้ามถนนหน้าบ้านก็ข้ามจังหวัดแล้ว คนเดินทางข้ามเขตจังหวัดตลอดเวลาเหมือนเป็นพื้นที่เดียวกัน ไม่มีข้อกฎหมายห้ามไม่ให้คนฉีดนอกจังหวัดที่ตนเองมีทะเบียนบ้านอยู่

ที่ผมไปฉีดตอนหัวค่ำ เพราะเป็นวัคซีนเหลือของวัน ซึ่งทางโรงพยาบาลต้องโทรหาคนที่แจ้งความประสงค์ฉีดวัคซีนไว้ ให้ไปฉีด เพื่อไม่ต้องทิ้งวัคซีนที่มีค่า ผู้อำนวยการโรงพยาบาล ซึ่งผมไม่รู้จัก และไม่เคยคุยกันมาก่อน ก็ออกมาให้สัมภาษณ์เองว่ากระบวนการทุกอย่างเป็นไปตามปกติ

 

ผมวิพากษ์การจัดหาวัคซีนของรัฐบาลที่ผิดพลาด โดยเฉพาะการแทงม้าตัวเดียว ผมไม่เคยเชิญชวนให้คนไม่ฉีดวัคซีน กลับกันผมยังชวนให้คนไปฉีดวัคซีน เพื่อปกป้องตัวเองและส่วนรวม

 

อย่างที่กล่าวข้างต้น ว่าผมพยายามอดทนอดกลั้นกับการกระทำของคนกลุ่มนี้ ตั้งหน้าตั้งตาทำงาน ถึงแม้ผมจะโดนตัดสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ผมก็ตั้งใจว่าจะทำในสิ่งที่ผมพอจะทำได้ คือการทำงานการเมืองท้องถิ่นของคณะก้าวหน้า, การรณรงค์ประเด็นสาธารณะที่สำคัญ และการทำงานความคิดประชาธิปไตยกับคนทุกกลุ่ม เพื่อสร้างสังคมที่ผมและเพื่อนหวังจะเห็น

"ธนาธร" ซัดพวกอนุรักษ์นิยม-ไอโอรัฐบาล สร้างเรื่องแย่ง "วัคซีนคนแก่" ลั่นฟ้องเอาผิด

แต่การกระทำที่น่ารังเกียจของคนกลุ่มนี้ และการร่วมสนับสนุนโดยไอโอของรัฐบาล กองทัพและบางพรรคการเมือง ที่รังแต่จะสร้างความเกลียดชังในหมู่ประชาชน ไม่ได้ทำร้ายผมคนเดียว ไม่ใช่ผมคนเดียวที่โดนทำลายจากคนกลุ่มนี้ ยังมีนักประชาธิปไตยและนักสิทธิมนุษยชนอีกเป็นจำนวนมากที่ถูกคนกลุ่มนี้ทำลายชื่อเสียง”

 

ดังนั้นผมจึงขอใช้สิทธิดำเนินการฟ้องคดีตามกฎหมายต่อคนกลุ่มนี้ และต่อองค์กรรัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อปกป้องไม่ให้รัฐนำข้อมูลส่วนบุคคลที่ตนเองถืออยู่ในมือมาใช้เป็นเครื่องมือ เพื่อสร้างความเกลียดชังในหมู่ประชาชน รวมถึงทำลายผู้ที่เห็นต่างกับรัฐอีกต่อไป

 

ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่มอบให้ผมจากมิตรสหายและผู้สนับสนุนในสองสามวันมานี้ สิ่งต่าง ๆ นี้ ทำให้พวกเรามีพลังในการทำงานต่อไป ขอให้ทุกท่านที่อ่านข้อความนี้ ช่วยกดแบ่งปันให้ข้อความของผมเข้าถึงคนหมู่มากได้ เพื่อให้พวกเขารับข้อมูลทั้งสองด้าน และที่สำคัญกว่านั้น คือเพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงอันตรายของการที่รัฐใช้ข้อมูลส่วนตัวของพวกเรามาเป็นเครื่องมือทางการเมืองรับใช้ผู้มีอำนาจ

 

(คลิกอ่านโพสต์ต้นฉบับ)