พ่อแม่ของโนวัค ยอโควิช นักเทนนิสอาชีพชาวเซอร์เบียมือวางอันดับ 1 ของโลก และแชมป์แกรนด์ สแลม ประเภทชายเดี่ยว 20 สมัย ตำหนิทางการออสเตรเลีย ที่ปฏิบัติต่อลูกชายของพวกเขาเยี่ยง "นักโทษ" ที่นอกจากจะไม่ได้รับ "อากาศบริสุทธิ์" แล้ว ยังได้รับอาหารที่ "น่าสะอิดสะเอียน" ระหว่างถูกกักตัวอยู่ที่โรงแรม "The Park Hotel" บนถนนสวอนสตัน ย่านคาร์ลตัน ของนครเมลเบิร์น ที่กองกำลังปกป้องพรมแดน (ABF) ใช้เป็นศูนย์กักกันคนเข้าเมือง ส่วนใหญ่เป็นผู้ขอลี้ภัยจากปาปัวนิวกินี และนาอูรู มาตั้งแต่ปี 2563 และขณะนี้ มีคนเหล่านี้อยู่ประมาณ 30 คน
ยอโควิชต้องถูกกักตัว หลังจากวีซ่าที่ใช้เข้าประเทศออสเตรเลีย เพื่อเข้าร่วมการแข่งขัน 2022 Australian Open ไม่ได้ครอบคลุมถึงข้อยกเว้นทางการแพทย์ กรณีที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 จึงกลายเป็นวีซ่าผิดประเภท ส่งผลให้เขาต้องถูกกักตัวอยู่ในสนามบินหลายชั่วโมง ก่อนถูกพาไปโรงแรม The Park Hotel ที่ถูกใช้เป็นศูนย์กักกันคนเข้าเมืองมาตั้งแต่ปี 2563 และมีทั้งผู้อพยพและผู้ขอลี้ภัยอยู่ในโรงแรมราว 30 คน
แม้จะโฆษณาว่าเป็นโรงแรมระดับ 4.5 ดาว แต่หนึ่งในผู้ที่เคยถูกกักตัวที่โรงแรงแห่งนี้ นาน 5 เดือน ได้เปิดเผยต่อ ITV News ของอังกฤษ ว่า "น่าสะอิดสะเอียน" และเป็นการ
เหยียดหยามจากรัฐบาลออสเตรเลีย ระบบกักตัวและสถานที่กักตัวของออสเตรเลียไม่ต่างจากนรก "ยอโควิชเป็นเหยื่อของนักการเมืองออสเตรเลีย เป็นเหยื่อเกมการเมือง"
โรงแรมแห่งนี้ ถูกใช้เป็นที่กักตัวผู้ติดเชื้อโควิด-19 เมื่อเดือนตุลาคม และเพิ่งเกิดไฟไหม้เมื่อเดือนธันวาคม ทำให้ต้องมีการอพยพ มีคนถูกส่งเข้าโรงพยาบาลเพราะสูดควันไฟ เมื่อวันที่ 27 ธันวาคมที่ผ่านมา มีผู้ลี้ภัยคนหนึ่งได้โพสต์ภาพลงโซเชียล มีเดีย แสดงให้เห็นอาหารที่เต็มไปด้วยหนอน และขนมปังขึ้นรา ที่แม้สัตว์ก็กินไม่ได้ อีกคนบอกว่า ถึงกับอาเจียนหลังกินอาหารของโรงแรม
โรงแรมแห่งนี้ ยังต่างกันราวฟ้ากับเหวกับโรงแรมในเมืองแอดิเลด ที่ยอโควิชเข้ารับการกักตัวร่วมกับนักเทนนิสอีกหลายคน ตอนที่เดินทางไปแข่ง Australian Open เมื่อปีที่แล้ว
สำหรับยอโควิช เขาได้รับการผ่อนผันให้อยู่ในออสเตรเลีย จนถึงวันจันทร์ที่ 10 มกราคม โดยจะมีการพิจารณาคำร้องขอความเป็นธรรมจากทีมทนาย และตัดสินในเวลาประมาณ 10.00 น. ของวันเดียวกัน
ผู้สันทัดกรณีชี้ว่า ยอโควิชไม่ควรได้รับอนุญาตให้ขึ้นเครื่องบินไปออสเตรเลียตั้งแต่แรก ถ้ารัฐบาลออสเตรเลียวิตกในประเด็น "การยกเว้นทางการแพทย์" ของเขามากมายขนาดนั้น เพราะตอนนี้ เรื่องราวมันลุกลามเป็นปัญหาทางการทูตระหว่างออสเตรเลียกับเซอร์เบียไปแล้ว และหน่วยงานของรัฐบาลออสเตรเลียเองนั่นแหละ ที่จะต้องตอบให้ได้ว่า ทำไมถึงออกวีซ่าให้ตั้งแต่แรก ถ้าคุณสมบัติของเขาไม่ครบตามข้อกฎหมาย
และคำถามที่ยังค้างคาใจคือ มันคุ้มหรือไม่กับผลพวงที่จะตามมา จากการเอาสุดยอดนักกีฬาที่มีมูลค่ามากกว่า 210 ล้านดอลลาร์ (7,000 ล้านบาท) ไปกักขังไว้ในห้องพัก
แคบๆ ราคาคืนละ 109 ดอลล่าร์ ( 3 พันกว่าบาท) !!!