ศบค. เตรียมยกระดับ มาตรการเข้มสกัดโอมิครอน

ในวันพรุ่งนี้ (7 มกราคม 2565)  พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด -19  จะนั่งเป็นประธานการประชุม  ศบค. ชุดใหญ่ เพื่อพิจารณาการออกมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด - 19 โดยเฉพาะสายพันธุ์โอมิครอน ที่มีการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างในขณะนี้ หลังจากมีการละเลยมาตรการป้องกัน   รวมไปถึงการลักลิบเปิดสถานบันเทิง และการแพร่ระบาดในพิธีงานบุญ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา

ที่ประชุมวันพรุ่งนี้  จะพิจารณาการปรับพื้นที่โซนสี โดยส่วนใหญ่จะถูกปรับให้เป็น "พื้นที่สีส้ม" และบางจังหวัดจะอยู่ในกลุ่ม "พื้นที่สีเหลือง"  แต่จะไม่มีพื้นใดเป็น "พื้นที่สีแดงเข้มหรือสีแดง" และยังไม่ถึงขั้นการห้ามเดินทางข้ามจังหวัด  แต่จะเป็นในลักษณะการขอความร่วมมือ เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อ ส่วนการจัดงานบุญงานพิธีประเพณีต่างๆ ได้มีมาตรการรองรับและเพิ่มความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้  จะมีการปรับมาตรการเข้าและออกประเทศ โดยจะระงับการเดินทางเข้าประเทศในระบบ Test & Go ออกไปโดยไม่มีกำหนด , และปรับมาตรการ การดำเนินกิจกรรมและกิจการต่างๆ โดยเสนอปิดร้านอาหารกึ่งผับบาร์ การห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ , การงดกิจกรรมการรวมกลุ่ม รวมไปถึงการออกมาตรการรองรับการแพร่ระบาดอีกด้วย

คาดการณ์ว่า ที่ประชุมพรุ่งนี้  จะมีการรายงานการเตรียมความพร้อมทั้งระบบ Home isolation และ community isolation ทั้งประเทศ รวมไปถึงเตรียมความพร้อม  เรื่องสถานการณ์เตียงผู้ป่วยทั่วประเทศ ปริมาณยาที่ใช้ในการรักษา รวมไปถึงแผนการบริหารจัดการวัคซีน

เมื่อที่ประชุมเห็นชอบ ให้ยกระดับมาตรการตอบโต้สถานการณ์เชิงรุก บูรณาการส่วนราชการทุกหน่วยงานเพื่อให้ตอบสนองและทันต่อท่วงที ซึ่งทุกพื้นที่ จังหวัดจะมีศูนย์ปฏิบัติการและ EOC อยู่แล้ว โดยจะมีการเตรียมความพร้อม ทั้งโรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม ส่วนจะกลับมาเต็มระบบเหมือน การแพร่ระบาดในรอบที่ผ่านมาหรือไม่  ให้อยู่กับพื้นที่เป็นผู้ประเมินสถานการณ์ ตามตัวเลขของผู้ติดเชื้อ

สำคัญที่สุด มีการขอความร่วมมือประชาชนเข้าใจถึงสถานการณ์ และการคัดกรอง ของแพทย์ ทั้งระบบ Home Isolation และ community isolation ซึ่งเป็นจุดแรกที่ต้องเร่งดำเนินการคือ งานด้านสาธารณสุขจะต้องดำเนินการในภาพรวม หากผู้ที่มีอาการน้อยหรือไม่มีอาการ เข้าโรงพยาบาลทั้งหมด คนที่มีอาการมากรวมไปถึงผู้ป่วยในโรคอื่น ก็จะได้รับผลกระทบก็จะยุ่งไปหมดเรื่องนี้คือเรื่องที่สำคัญ จึงต้องเร่งจัดระเบียบ และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนนั้นเข้าใจ