จีนกำลังเร่งมือควบคุมหนึ่งในการแพร่ระบาดที่เลวร้ายที่สุดในเมืองเดียว นับตั้งแต่เริ่มการระบาดใหญ่จนนำไปสู่การล็อกดาวน์ และการออกมาตรการที่เข้มงวดอื่นๆ ที่เมืองซีอาน มณฑลส่านซี ที่ประชากร 13 ล้านคน ถูกห้ามออกจากเคหะสถาน ยกเว้นเหตุผลจำเป็น เช่น ออกไปซื้ออาหาร ซึ่งแต่ละครัวเรือนสามารถส่งสมาชิกออกไปได้คนเดียว
มาตรการล็อกดาวน์ที่หนักหน่ยง ออกมาในขณะที่มีผลการศึกษาในเชิงบวก แสดงให้เห็นว่า โคโรนาไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน มีฤทธิ์อ่อนกว่าสายพันธุ์อื่นๆ โดยรายงานอย่างเป็นทางการชิ้นแรกในสหราชอาณาจักร ระบุว่า ความเสี่ยงที่ผู้ติดเชื้อจะต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล ต่ำกว่าสายพันธุ์เดลตา 50-70% ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขหลายคน ย้ำว่า การฉีดกระตุ้นเข็ม 3 สามารถป้องกันโอมิครอน และยังเป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการฝ่าฟันการระบาดไปได้อีกด้วย
แต่จีน ยังคงเข้มงวดกับมาตรการ "โควิดเป็นศูนย์" หลังมีรายงานว่า มีการส่งเจ้าหน้าที่บุกเข้าไปตามบ้านเรือน และกวาดต้อนประชาชนขึ้นรถบัสไปยังแคมป์กักตัวกลางดึกBBC รายงานว่า ไม่มีตัวเลขแน่ชัดว่า มีประชาชนได้รับคำสั่งให้ออกจากบ้านจำนวนเท่าใด แต่มีคนเห็นว่ามีรถบัสจอดรออยู่ถึง 30 คัน ส่วนอีกคนบอกว่า คนที่ได้รับคำสั่งให้ออกจากบ้านมีจำนวน 1,000 คน
มีคนบอกด้วยว่า พวกเขาถูกสั่งให้รออยู่บนรถบัสหลายชั่วโมง แต่คนที่ถูกพาไปกักตัวจริงๆ ได้รวมทั้งคนชรา เด็กเล็ก และผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ ซึ่งภาพของชายสูงอายุคนหนึ่ง ยืนอยู่ตามลำพังท่ามกลางอากาศหนาวจัดเพื่อรอเรียกขึ้นรถบัส กำลังเป็นไวรัลในโซเชียล มีเดีย และยังมีการแชร์ภาพสถานที่กักตัว ที่ถูกระบุว่า หนาวและไม่มีอาหารมาแจก และไม่มีใครมาดูด้วย
อีกคนบอกว่า พวกเขาขนพวกเรามา มากกว่าพันคนกลางดึก ส่วนใหญ่เป็นคนชรากับเด็กๆ พวกเขาไม่มีการจัดการที่เหมาะสม แค่เอามาทิ้งไว้แล้วก็ไม่ดูแล
ซีอาน เคยได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม เป็นหนึ่งในเมืองใหญ่ที่สุดของจีนที่ถูกล็อกดาวน์ หลังจากที่อู่ฮั่นเคยโดนมาแล้ว เมื่อเดือนมกราคม ปีที่แล้ว ตอนที่โควิด-19 เริ่มระบาด โดยที่ซีอานพบผู้ติดเชื้อ 1,451 คน นั้งตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม สูงที่สุดในบรรดาเมืองใหญ่ของจีน ในปี 2564 ก่อให้เกิดความตื่นตระหนกในหมู่ชาวจีน
มีรายงานด้วยว่า ความหิวโหยทำให้ประชาชนบางคนฝ่ากฎ ทำให้ถูกลงโทษอย่างหนักโดยเมื่อสุดสัปดาห์ มีคลิปไวรัลที่แสดงให้เห็นชายคนหนึ่งถูกเจ้าหน้าที่ทุบตี เพราะออกจากบ้านไปซื้อซาลาเปา ส่วนคนที่หวาดกลัวใช้วิธีขอความช่วยเหลือผ่านโซเชียลมีเดีย ซึ่งนักศึกษาหญิงคนหนึ่ง บอกว่า ทนกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมา 2 สัปดาห์แล้ว และตอนนี้เหลือแค่ 5 ห่อเท่านั้น
มีบางคนร้องเรียนผ่านโซเชียล มีเดียว่า ได้ยินว่าเขตอื่นได้รับของจำเป็น แต่ทำไมตัวเองไม่ได้ ทั้งที่ถูกห้ามออกนอกเคหะสถาน ต้องซื้อยาผ่านออนไลน์ ไม่ได้แม้กระทั่งผักมาหลายวันแล้ว และอีกคน บอกว่า ได้รับแจ้งให้รวมกลุ่มกันสั่งของ และพบว่า ตอนนี้ราคาสินค้าราคาแพงมากเช่นกัน