เจ้าหน้าที่รัฐโคโลราโดเปิดเผยเมื่อวันเสาร์ ( 1 มกราคม ) ว่า บ้านเรือนเกือบ 1,000 หลังถูกทำลาย และอีกหลายร้อยหลังได้รับความเสียหาย หลังจากไฟป่าได้เผาผลาญหลายชุมชนเขตชานเมืองที่เชิงเทือกเขาร็อกกี ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองเดนเวอร์
ขณะเดียวกันมีผู้สูญหาย 3 คนและคาดว่าทั้งหมดน่าจะเสียชีวิตแล้ว
โจ เพล นายอำเภอเขตโบลเดอร์เคาน์ตี้ยังเปิดเผยอีกว่า เจ้าหน้าที่สืบสวนยังคงพยายามค้นหาสาเหตุของเพลิงไหม้ที่ปะทุเมื่อวันพฤหัสบดี
นายอำเภอระบุว่าจากการประมาณการล่าสุดที่ใกล้จะถึงที่สุดแล้ว คือมีบ้านเรือนทั้งหมด 553 หลังถูกทำลายในเมืองลูอิสวิลล์ และอีก 45 หลังได้รับความเสียหาย ส่วนในเมืองสุพีเรียร์ บ้าน 332 หลังถูกทำลายและ 60 หลังได้รับความเสียหาย และนอกเขตโบลเดอร์เคาน์ตี้ บ้านอีก 106 หลังถูกทำลาย และได้รับความเสียหาย 22 หลัง
เขาเสริมว่า "จะมีการดำเนินการที่สาสม " หากพบว่าสาเหตุของไฟป่าเกิดจากการลอบวางเพลิงหรือ "พฤติกรรมความประมาทเกี่ยวกับไฟ "
ไฟป่าที่ถูกเสริมให้แรงขึ้นจากลมแรง ทำให้ทั้งย่านในเขตชานเมืองระหว่างเดนเวอร์และโบลเดอร์ไหม้เกรียม
นายอำเภอบอกว่าเจ้าหน้าที่กำลังจัดทีมเพื่อค้นหาผู้สูญหายในพื้นที่สุพีเรียห์และนอกเขตโบลเดอร์ แต่งานมีความซับซ้อนจากเศษซากของอาคารบ้านเรือนที่ถูกทำลาย ซึ่งปกคลุมไปด้วยหิมะขนาดสูง 8 นิ้ว ที่ถูกพายุพัดมาทับถมในชั่วข้ามคืน
นายอำเภอระบุว่าเจ้าหน้าที่สาธารณูปโภค ยังไม่พบเสาไฟที่ล้มบริเวณที่เกิดเพลิงไหม้ ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุของเพลิงไหม้ และทางการกำลังตรวจสอบเบาะแสจำนวนหนึ่งรวมถึงได้ขอหมายค้น “สถานที่แห่งหนึ่ง” แต่ก็ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเพิ่มเติม
หลังจากไฟไหม้ ในพื้นที่ก็เกิดหิมะตกหนัก และอุณหภูมิก็ลดลงอย่างมากในชั่วข้ามคืนเมื่อวันเสาร์ ยิ่งสร้างความทุกข์ยากให้กับชาวโคโลราโดหลายร้อยคนที่ต้องเริ่มต้นปีใหม่ด้วยการพยายามเก็บกู้ทรัพย์สมบัติที่เหลืออยู่จากซากบ้านเรือนของพวกเขา