ท่องเที่ยววอนรัฐ ‘ผ่อนปรน‘ รับต่างชาติ
ธเนศ ศุภรสหัสรังสี รักษาการประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจ.ชลบุรี ได้ยื่นหนังสือผ่อนปรนให้พื้นที่แซนด์บ็อกซ์หรือบลูโซนอื่นๆ รับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ หลัง ศบค.ปรับมาตรการฯ ผ่อนปรนให้เฉพาะ ภูเก็ต
นายธเนศ ศุภรสหัสรังสี รักษาการประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ภาคีเครือข่ายภาคเอกชนด้านการท่องเที่ยวได้ยื่นหนังสือถึง พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และประธาน ศปก.ศบค. รวมถึงนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา และนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ให้พิจารณาผ่อนปรนให้พื้นที่แซนด์บ็อกซ์หรือบลูโซนอื่นๆ รับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ หลัง ศบค.ปรับมาตรการฯ ผ่อนปรนให้เฉพาะ ภูเก็ต รับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบแซนด์บ็อกซ์ต่อไปเพียงพื้นที่เดียว
“การปรับมาตรการดังกล่าว กระทบต่อธุรกิจท่องเที่ยวไทยมหาศาล อาจนำไปสู่การปิดกิจการ โดยเฉพาะเอสเอ็มอี หากรัฐให้ภูเก็ตรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบแซนด์บ็อกซ์ได้ต่อไป ก็ไม่น่าจะมีเหตุผล ไม่อนุญาตให้พื้นที่บลูโซนอื่นๆ รับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบแซนด์บ็อกซ์เช่นเดียวกับภูเก็ต”
เมื่อพิจารณาแง่สถิติ พบมีผู้เดินทางชาวต่างชาติเข้าไทยตั้งแต่เปิดประเทศ 1 พ.ย.2564 ผ่านสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมืองมีตัวเลขต่อวันรวมมากกว่าสนามบินภูเก็ต ระยะแรกสนามบินเขตกรุงเทพฯ มีนักท่องเที่ยวเข้ามาวันละ 5,000-7,000 คน ขณะที่ภูเก็ตมีเข้ามาวันละ 1,500-2,000 คน จนตัวเลขเดือน ธ.ค.ก่อน ศบค.จะปรับมาตรการล่าสุด สนามบินในเขตกรุงเทพฯ มีนักท่องเที่ยวเฉลี่ย 10,000 คนต่อวัน สนามบินภูเก็ตมีเฉลี่ย 3,000 คนต่อวัน ชี้ถึงดีมานด์ของนักเดินทางว่า ต้องการมากรุงเทพฯ และพื้นที่ใกล้เคียงมากกว่าภูเก็ต
“ภาคเอกชนด้านการท่องเที่ยวของพื้นที่บลูโซน ที่เดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ หรือดอนเมืองไปยังพื้นที่ดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพฯ ชลบุรี ระยอง และหัวหิน ในระยะเวลาไม่เกิน 2.5-3 ชั่วโมง สามารถนำนักท่องเที่ยวเดินทางแบบซีลรูท (Sealed Route) ไม่แวะพักระหว่างทาง อยากให้รัฐบาลพิจารณาอนุญาตให้พื้นที่บลูโซนเหล่านี้รับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ในแบบแซนด์บ็อกซ์ต่อไป”
อย่างไรก็ตาม ไฮซีซันจะเริ่มตั้งแต่เดือน พ.ย.-ก.พ.ซึ่งมีเวลาเพียง 4 เดือน ขณะนี้ เหลือเวลาเพียง 2 เดือนเท่านั้น ที่จะประกอบกิจการได้ แม้จำนวนนักท่องเที่ยวจะไม่สามารถเทียบเคียงกับปีปกติ ถ้าสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ จะกระทบต่อแรงงานภาคท่องเที่ยวต้องตกงาน กระทบต่องบประมาณระดับมหภาคในการเยียวยา
“อยากให้รัฐพิจารณามาตรการที่สามารถเข้มงวดขึ้นตามสถานการณ์การระบาดที่รุนแรงขึ้น แต่ยังผ่อนปรนให้ผู้ประกอบการเอกชนในพื้นที่อื่นๆ นอกจากภูเก็ตยังสามารถประกอบธุรกิจต่อไปได้ เพื่อให้เศรษฐกิจภาคท่องเที่ยวในแต่ละท้องถิ่นสามารถขับเคลื่อนต่อ”
นายรัชชพร พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย กล่าวว่า เตรียมทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค.ทบทวนมาตรการการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติพื้นที่ “สมุย พลัส โมเดล” ประกอบด้วย เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี ให้เปิดรับนักท่องเที่ยวในรูปแบบแซนด์บ็อกซ์ได้เช่นเดียวกับ ภูเก็ต เพราะสมุย พลัส โมเดลก็เคยเป็นแซนด์บ็อกซ์มาก่อน และมีมาตรฐานทางด้านสาธารณสุขที่รัดกุม
