ยังคงเป็นประเด็นมหากาพย์ สำหรับการประมูลขายทอดตลาดโรงแรมดาราเทวี จ.เชียงใหม่ ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทบริหารสินทรัพย์โกลบอลวัน จำกัด ในฐานะเจ้าหนี้บุริมสิทธิจำนอง โรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่ แถลงข่าวฟ้องร้องเจ้าพนักงานบังคับคดีเชียงใหม่ เนื่องจากมองว่า มีการขัดขวางล้มการประมูล จนไม่สามารถประมูลที่ดินและโรงแรมได้
กระทั่งนายไกยวัลย์ จิระกุล ผอ.สำนักงานบังคับคดีเชียงใหม่ ถูกสั่งย้ายไปเป็น ผอ.สำนักบังคับคดีพะเยา เป็นเวลา 2 เดือน จนเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.มีการขายทอดตลาดครั้งที่ 1 อย่างเป็นทางการ
แต่เมื่อเข้าสู่ขั้นตอนสอบถามผู้เข้าสู้ราคาว่า จะรับราคาเริ่มต้น 2,116 ล้านบาทหรือไม่ ปรากฏว่า มีเพียงบริษัทไฮไลฟ์ แอสเสท จำกัด บอกไม่รับราคา ทำให้เจ้าพนักงานบังคับคดีเชียงใหม่ ต้องประกาศให้ขายทอดตลาดครั้งที่ 2 วันที่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมาแทน โดยจะมีราคาเริ่มต้นการขายทอดตลาดที่ 1,904 ล้านบาท
กระทั่งเมื่อถึงวันจริง มีผู้เข้าร่วมประมูล 2 ราย ได้แก่ บริษัท ไฮไลฟ์ แอสเซส จำกัด และบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสเทอมอลพาวเวอร์ จำกัด ก่อนที่บริษัทฝ่ายหลัง จะชนะการประมูล ราคาปิดที่ 2,012,620,000 บาทนั้น
ล่าสุด น.ส.เยาวลักษณ์ ฤทธิ์สมจิตต์ เปิดเผยว่า ในฐานะผู้ถือหุ้นของบริษัทมหาชน อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น หรือ IFEC จะขอเข้าพบเลขาธิการ กลต.เพื่อแจ้งและสอบถามถึงเรื่องที่บริษัท IFEC ใช้บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์เทอมอล พาวเวอร์ จำกัด หรือ I Thermal ซึ่งเป็นบริษัทย่อยเข้าไปลงทุนสูงถึง 2,016 ล้านบาท ซื้อโรงแรมจากการขายทอดตลาดของกรมบังคับคดี
ทั้งที่บริษัท IFEC อยู่ในกระบวนการล้มละลาย และบริษัทย่อย I Thermal มีหนี้สินสูงเกินทุน อาจถูกเจ้าหนี้ฟ้องล้มละลายได้ตลอดเวลา การเข้าซื้อโรงแรมครั้งนี้ ทราบมาว่าคณะกรรมการบริษัท IFEC ไม่ได้รับรู้ ไม่มีมติยินยอมให้นายทวิช เตชะนาวากุล และนายหาญ เชี่ยวชาญ กรรมการของบริษัท I Thermal ไปวางเงิน 110 ล้านบาท เป็นหลักประกันการซื้อการโรงแรมต่อกรมบังคับคดีแต่อย่างใด
“การซื้อสินทรัพย์ขนาดใหญ่เช่นนี้ กรรมการบริษัท IFEC จะต้องประชุมและมีมติอนุมัติให้ทำการลงทุน ก่อนที่จะมีการวางเงิน 110 ล้านบาท เป็นหลักประกันการซื้อโรงแรม บริษัทจะต้องมีการทำรายละเอียดเกณฑ์ที่ใช้กำหนดมูลค่าสิ่งตอบแทน , บริษัทฯจะต้องทำรายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ และส่งรายงานต่อผู้ถือหุ้น ถึงผลตอบแทนของการลงทุน จะต้องรายงานวิธีการได้มาของเงินทุน และอื่นๆ อีกมาก”
แต่นายทวิช ฝ่าฝืนกฎเกณฑ์และละเมิดกฎหมาย ไม่ดำเนินการตามขั้นตอน เป็นที่น่าสงสัยยิ่งว่าเงิน 110 ล้านบาท ไปนำมาจากที่ไหน เพราะจากงบการเงินปีล่าสุดของบริษัท I Thermal เกือบไม่มีเงินสดอยู่เลย หากนำมาจากเงินส่วนตัวหรือจากบุคคลใกล้ชิด จะกลายเป็นการทำรายการที่เกี่ยวโยงระหว่างกัน ซึ่งมีกฎหมายควบคุมเข้มขึ้นไปอีก การซื้อโรงแรมอย่างเร่งรีบเช่นนี้ อาจจะสร้างผลเสียหายอย่างร้ายแรงต่อผู้ถือหุ้น IFEC จึงต้องรีบขอเข้าพบท่านเลขาธิการ กลต.โดยด่วนที่สุด