พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ขอบคุณศาล รธน. ฟัน "สิระ" เย้ยสภาสูงขึ้นเยอะ

     วันนี้ (22 ธ.ค.) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย แถลงข่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส. เนื่องจากมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา98(10) เป็นเหตุให้สมาชิกภาพ ส.ส.สิ้นสุดลง จากกรณีเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลแขวงปทุมวัน ในคดีความผิดฐานฉ้อโกง (อ่านรายละเอียด) ว่า ตนในฐานะผู้ยื่นเรื่องถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา ต้องขอบคุณศาลรัฐธรรมนูญที่ยังคงไว้ซึ่งความยุติธรรมที่ประชาชนรอคำตอบในกรณีดังกล่าวมากว่า 1 ปี ซึ่งเป็นการพิสูจน์แล้วว่าศาลรัฐธรรมนูญยังมีความยุติธรรมอยู่ ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้อาจมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญประชาชนอาจจะไม่เห็นด้วย แต่วันนี้ศาลก็ได้ให้ความเชื่อใจและความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนแล้ว

     สำหรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ให้นายศิรพ้นจากสมาชิกกับภาพนับตั้งแต่วันเลือกตั้งคือวันที่ 24 มีนาคม 2562 นั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า นายสิระจะต้องคืนเงินเดือน ส.ส.ทั้งหมด ซึ่งรวมถึงเบี้ยประชุมและงบประมาณที่ใช้เดินทางเพื่อศึกษาดูงานทั้งของสภาผู้แทนราษฎรหรือของคณะกรรมาธิการชุดต่างๆ ด้วย  

     นอกจากนี้ นายสิระยังถูกศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎร 20 ปี ไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ได้ และ กกต. ต้องแจ้งข้อหาแจ้งความเท็จในการลงสมัครรับเลือกตั้ง กรณีที่ไม่เคยต้องโทษความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ ซึ่งดคีนี้มีโทษจำคุก 1 - 10 ปี ไม่มีรอลงอาญา วันนี้นายสิระอายุ 57 ปี อีก 20 ปี ก็ครบ 77 ปี แล้วค่อยมาเจอกันหน่อย ตนจะรอ

“ที่ผ่านมาพฤติกรรมของนายสิระกร่างไปทั่วไป กร่างตำรวจที่ภูเก็ต และยังกร่างกับอดีตผบ.ตร เลยต้องให้รู้ดำรู้แดงว่า ถ้านายสิระรู้จักเป็นมิตรกับคนอื่นๆ เป็นมิตรกับตำรวจ เป็นมิตรกับผม เรื่องนี้คงไม่เกิด ที่ผ่านมาเคยมานั่งด่าผมในกมธ. ผมยอมให้เขาด่า เพราะส.ส.มีเอกสิทธิคุ้มครอง ผมก็ยอมให้เขาด่าแล้วก็มาเก็บ พวกนี้โดนผมเก็บหมด รู้สึกว่าตอนนี้สภาฯ สูงขึ้นเยอะ เวลาเดินอย่าลืมก้าวข้ามบันไดนับขั้นให้ดี สภาฯมันสูงขึ้น” 

     พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้นายสิระ ได้ขอเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ซึ่งขั้นตอนก่อนขอเครื่องราชอิสริยาภรณ์ นายสิระจะต้องแจ้งข้อมูลว่าไม่เคยต้องโทษและไม่เคยถูกจำคุก ซึ่งกรณีนี้ตนได้เคยขอหลักฐานไปยังเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อขอเอกสาร ซึ่งตนไม่ได้รับความร่วมมือและได้ข้อมูลในส่วนนี้เลย ดังนั้นจากนี้ตนจะเดินหน้าร้องเรียนเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และรองเลขาธิการคณะรัฐมนตรีด้วย เนื่องจากปกปิดข้อมูลและให้การช่วยเหลือนายสิระ