นิวซีแลนด์เลื่อนเปิดประเทศหลังโอมิครอนกระจายทั่วโลก

คริส ฮิปกินส์ รัฐมนตรีควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ของนิวซีแลนด์ ประกาศวันนี้เลื่อนแผนการเปิดพรมแดนเฟสแรกจากเดือน ม.ค.ปีหน้าออกไปเป็นสิ้นเดือน ก.พ.ปีหน้าจากเดิมกำหนดว่า จะให้พลเมืองนิวซีแลนด์ที่มีถิ่นพำนักถาวรในออสเตรเลียเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องกักตัวตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค.ปีหน้า ส่วนแผนอนุญาตให้นักท่องเที่ยวต่างชาติทุกคนเข้าประเทศจะเริ่มได้ในเดือน เม.ย.ปีหน้า

ฮิปกินส์ บอกว่า การตัดสินใจมีขึ้นหลังจากหลักฐานทั้งหมดบ่งชี้ว่า ไวรัสโคโรนากลายพันธุ์สายพันธุ์โอมิครอนเป็นสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดได้รวดเร็วที่สุดในเวลานี้ และแน่นอนว่า การเปลี่ยนแปลงนี้อาจสร้างความผิดหวังและกระทบต่อแผนการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลส่งท้ายปลายปี แต่เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องกำหนดให้ชัดเจนตอนนี้เพื่อให้ประชาชนมีเวลาทบทวนแผนวันหยุดของตัวเอง

นอกจากนี้นิวซีแลนด์ยังปรับเพิ่มระยะเวลากักตัวในสถานที่ที่กำหนดของรัฐจาก 7 วันเป็น 10 วันอีกด้วย และลดระยะเวลาผลตรวจโควิด-19 ก่อนเข้านิวซีแลนด์จาก 72 ชม.เป็น 48 ชม.ก่อนเดินทาง

สายพันธุ์โอมิครอนกำลังแพร่ทวีคูณอย่างรวดเร็วทั่วยุโรป สหรัฐฯ และเอเชีย โดยในญี่ปุ่นกำลังเจอคลัสเตอร์ใหญ่ในฐานทัพ ที่มีผู้ติดเชื้ออย่างน้อย 180 คน และสิงคโปร์กำลังตรวจสอบว่า โอมิครอนเป็นตัวการของคลัสเตอร์จากโรงยิมหรือไม่

ขณะนี้เกาหลีใต้ เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี และไอร์แลนด์อยู่ในกลุ่มประเทศที่ทยอยประกาศในระยะนี้ นำมาตรการล็อกดาวน์บางส่วนหรือเต็มรูปแบบ หรือ มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมกลับมาใช้เพื่อยับยั้งโอมิครอน

แต่นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน ของออสเตรเลีย แถลงวันนี้ยืนยันว่า จะไม่มีการประกาศใช้ไม้แข็งจากรัฐบาลและทางการเพื่อบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดอีกแม้ว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ยังคงเพิ่มสูงขึ้นทำสถิติใหม่  โดยจะเปลี่ยนจากวัฒนธรรมการบังคับเป็นการปฏิบัติตามโดยสมัครใจในฐานะผู้ใหญ่ที่มีความรับผิดชอบ เมื่อมีการออกมาตรการสวมหน้ากากหรือเว้นระยะห่างทางสังคม

นอกจากนี้ทำเนียบขาวของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะแถลงนโยบายเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโอมิครอนในวันนี้ แต่ยืนยันแต่จะไม่มีการออกข้อจำกัดใหม่ต่อธุรกิจหรือชีวิตของประชาชน