นับตั้งแต่วันที่ 14 ธ.ค.2555 เป็นต้นมา กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ประกาศขึ้นทะเบียนให้ “ส้มตำ” เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ทำให้วันนี้หลายคนที่ใช้บริการ “กูเกิล” (Google) เสิร์ชเอนจินชื่อดัง จะพบเห็น “ดูเดิลอาร์ต” (Doodle Art) แปลกตา เป็นภาพลิงน้อยกำลังตำส้มตำในครก
ทั้งนี้หากคลิกไปที่ลิงก์ จะพาผู้ใช้บริการไปยังเว็บไซต์ หรือบทความต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ “ส้มตำ” เพื่อร่วมเฉลิมฉลองอย่างเป็นทางการ
สำหรับต้นกำเนิดของ “ส้มตำ” เป็นการนำคำ 2 คำ มาผสมกัน จากคำว่า “ส้ม” เป็นภาษาท้องถิ่นภาคอีสาน ที่มีความหมายว่า “รสชาติเปรี้ยว” ส่วนคำว่า “ตำ” มาจากการใช้สากโขลกลงไป เพื่อให้วัตถุดิบเข้ากัน ซึ่งทั้ง 2 คำนี้ เมื่อนำมารวมกัน จะหมายถึงอาหารที่มีรสชาติเปรี้ยวจากการตำ
โดย “ส้มตำ” ชาวอีสานมีการทำกินมานานแล้ว ที่มีการเรียกในภาษาถิ่นว่า “ตำส้ม” กระทั่งชาวอีสานเริ่มอพยพเข้าไปสร้างถิ่นฐาน และทำมาหากินใน กทม.จึงเริ่มมีการบริโภค “ส้มตำ” จนกลายเป็นที่นิยมมาจนถึงปัจจุบัน
ส่วนวัตถุดิบที่นำมาใช้ในการทำส้มตำ มีความแตกต่างกันตามแต่ละภูมิภาค เช่น มะละกอ , พริก , มะนาว , หรือปลาร้า โดยทาง “กูเกิล” มีข้อแนะนำว่า ผู้ที่สนใจอยากกินส้มตำ ต้องคำนึงถึงจำนวนเม็ดพริกเป็นหลัก เพราะอาจทำให้เผ็ดร้อนจนกินไม่ได้