กมธ.งบฯลุยยโสธร พบอีกถนนโผล่กลางทุ่ง-คลองส่งน้ำชลประทานใช้การไม่ได้

13 ธันวาคม 2564 นายไชยา พรหมา ประธานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยนายประสงค์ บูรณ์พงศ์ ที่ปรึกษากรรมาธิการ ฯ นายสมเกียรติ เฮงวัชรไพบูลย์ ผู้ชำนาญการประจำกรรมาธิการฯ พร้อมคณะลงพื้นที่ติดตามและตรวจสอบการใช้งบประมาณของโครงการซ่อมแซมคันคลองส่งน้ำ ในโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชีล่างและเซบายล่างของกรมชลประทาน ซึ่งก่อนหน้านั้นโซเชียลมีการแชร์ภาพถนนพื้นที่บ้านเหมือด ต.ฟ้าหยาด อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร โผล่กลางทุ่งนาและเป็นทางตัน อีกทั้งยังมีที่ ต.หัวเมือง อ.มหาชนะชัย ความยาว 1,800 เมตร ถูกสร้างตัดกับทุ่งนาเช่นเดียวกัน 

นายไชยา พรหมา ประธานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า วันนี้ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเพิ่มเติมอีก 4 แห่ง ประกอบด้วย จุดที่ 1. บ้านราชมุนี ต.โนนทราย อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร จุดที่ 2.บ้านเหมือดป่าตอง ต.ผือฮี อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร  จุดที่ 3 บ้านคูสองชั้น สถานีสูบน้ำ P5 อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร และจุดที่ 4.ประตูระบายน้ำP6 อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร 

โดยเฉพาะจุดที่ 1. บ้านราชมุนี ที่ทีมข่าวเข้าไปสำรวจพบว่า คลองส่งน้ำของกรมชลประทานที่สร้างเสร็จสิ้นตั้งแต่ปี 2557 แต่จนถึงขณะนี้ยังใช้ประโยชน์ไม่ได้ สภาพทรุดโทรม คลองส่งน้ำที่เป็นทางยาวหญ้าขึ้นรกทึบ สถานีสูบน้ำชำรุด ไร้การดูแล นอกจากนี้ยังพบว่าหม้อแปลงไฟฟ้าของสถานีสูบน้ำยังถูกลักขโมยไปด้วย ถ้าหากจุดนี้ใช้ประโยชน์ได้จะเป็นประโยชน์ต่อชาวบ้านหมู่ที่1 หมู่ที่2 และหมู่ที่ 7 ครอบคลุมพื้นที่กว่า2พันไร่ แต่สภาพที่เห็นไม่สามารถใช้การได้เลย ที่ผ่านมาชลประทานจะส่งมอบให้อบต.ดูแลต่อ แต่อบต.ตรวจสอบดูแล้วพบว่าใช้งานจริงไม่ได้ จึงปฏิเสธที่จะเซ็นรับ จึงปล่อยทิ้งร้างมานานกว่า 7 ปี   ส่วนจุดที่ 2 ที่กมธ.ลงพื้นที่ตรวจสอบคือ บ้านเหมือดป่าตอง ต.ผือฮี อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร เป็นคันคลองส่งน้ำของชลประทาน ที่มีสภาพคล้ายถนน มีความกว้าง 5 เมตร ยาว 750 เมตร เป็นทางตันไปสิ้นสุดกลางทุ่งนา ถือเป็นจุดใหม่ที่พบล่าสุด 

ประธานกมธ. เปิดเผยด้วยว่า การทำคันคลองส่งน้ำไม่จำเป็นต้องใหญ่ขนาดนี้ก็ได้ เพราะไม่ใช่ถนนเชื่อมกัน ไม่จำเป็นต้องทำระบบพาราเอสพาติก  ตอนนี้ทางกมธ.อยากรู้ว่าทั่วประเทศ ที่กรมชลประทานก่อสร้างคลองส่งน้ำมีเท่าไหร่ และมีลักษณะเดียวกันกับยโสธรมากน้อยแค่ไหน  ซึ่งการใช้งบประมาณทุกอย่างต้องดูความคุ้มค่า ความเหมาะสม ส่วนจะมีการทุจริตในการเบิกจ่ายงบประมาณหรือไม่นั้น ต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ ไม่ว่าจะเป็น ปปท. สตง. ปปช. ถ้าหากผิดในระเบียบวิธีปฏิบัติต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูต่อไป

ข่าว : สุริยา ปะตะทะโย ภาพ : กวินทรา ใจซื่อ