มูลนิธิร่วมพัฒนาภาคใต้ ชี้นิคมฯโต้กลับ “จะนะรักษ์ถิ่น”
มูลนิธิร่วมพัฒนาภาคใต้ เมิน ข้อครหาส่งนายหน้า กว้านซื้อที่ สร้างนิคมฯ ชี้ไม่ใช่เรื่องเสียหาย โครงการไฮเทค ไม่ใช่โครงการแยกแก๊ส ไร้มลพิษ ขับเคลื่อนตามกฎหมาย มีกิจกรรมสังคม สนับสนุน ส่งเสริม โครงการ - ชาวบ้าน อยู่ร่วมกัน ติงทั้งๆ ที่ไม่ใช่หน้าที่เอกชน
ดร.สุเมต สุวรรณพรหม รองประธานมูลนิธิร่วมพัฒนาภาคใต้ ยอมรับการกว้านซื้อที่ในพื้นที่ จะนะ จ.สงขลา เพื่อนำมาพัฒนาเป็นนิคมอุตสาหกรรม ว่า ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร ถือเป็นสิทธิของทุกคนที่จะกว้านซื้อที่ดิน เมื่อ ทีพีไอ จะสร้างนิคมอุตสาหกรรมสนองนโยบายของรัฐบาล ซึ่งต้องใช้ที่ดินผืนใหญ่มากกว่า 1 หมื่นไร่ ที่ดินมากมายขนาดนี้ จึงมีคำว่า “นายหน้า” เข้ามาทำหน้าที่นี้ รวบรวมที่ดินในราคาที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับทำเล และจะได้มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับวิทยายุทธ์ของนายหน้า แต่ละคน ซึ่งเบื้องต้น ทราบว่าการรวบรวมที่ดินของ ทีพีไอ ดำเนินการเสร็จสมบูรณ์ พร้อมเดินหน้านิคมอุตสาหกรรม อ.จะนะ ตามแผนที่วางไว้
สำหรับชาวบ้านส่วนหนึ่ง ที่คัดค้านและยืนหยัดไม่หนีหายไปไหน จนหลายคนเป็นห่วงนั้น ตนขอทวงติงว่า อย่าลืม โครงการที่อ.จะนะ ไม่ใช่โรงแยกแก๊ส หรือ โครงการปิโตรเคมี แต่เป็นนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค ที่ต้องดำเนินโครงการตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งยังต้องดูแล พนักงานที่อาศัยอยู่ในนิคมฯ ในรูปแบบหมู่บ้านจัดสรรฯ อีกด้วย
นี่ ไม่ใช่จะบอกปัดการดูแลชาวบ้านนะครับ เพียงแต่โครงการขนาดใหญ่ลักษณะนี้ จะมีกิจกรรมเพื่อสังคม หรือที่เรียกว่า ซีเอสอาร์ คอยช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ แบบการมีส่วนร่วม ซึ่งตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ทีพีไอ ดูแลชาวบ้าน อ.จะนะ ด้วยงบประมาณมหาศาล ยิ่งในฐานะ มูลนิธิร่วมพัฒนาภาคใต้ เราเข้าไปดูแลทุกเรื่องที่จะมีส่วนช่วยให้ภาคใต้ได้รับการพัฒนา
"พูดด้วยความเป็นธรรม เอกชนไม่จำเป็นต้องดูแลที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจก็ได้ เพราะนั่นคือหน้าที่ของรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลนั่นแหละ ควรสนับสนุนโครงการฯมากกว่า เพราะมันหมายถึงการสร้างงานคนนับแสน สร้างรายได้ให้เงิน ทำให้ภาคใต้มีจีดีพี ยกระดับ หนุนจีดีพีให้เพิ่มสูงขึ้นต่างหาก"
