ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็นประชาชนบอกว่า มีความกังวลกับการระบาดของสายพันธุ์ใหม่ เพราะวัคซีนที่มีในปัจจุบันไม่สามารถป้องกันได้มากนัก และยังไม่เชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะควบคุมได้ แต่ยังหวังว่าสถานการณ์จะไม่กลับไปย่ำแย่เหมือนที่ผ่านมาจนถึงขั้นต้องปิดประเทศหรือล็อกดาวน์อีก เพราะจะกระทบกับเศรษฐกิจที่กำลังเริ่มฟื้นตัว ซึ่งต้องรอดูต่อไปว่าโอมิครอนจะมีความร้ายแรงมากน้อยแค่ไหน และรัฐบาลจะจัดการดูแลยับยั้งได้ดีเท่าที่ควรหรือไม่
ขณะที่ภาคเอกชน มองว่าแม้จะยังมีการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน แต่ปัจจุบันไทย มีอัตราการฉีดวัคซีนให้ประชาชนในระดับสูงและเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงมาตรการด้านสาธารณสุข การเข้า-ออก ประเทศที่เข้มงวด ซึ่งภาคเอกชนเห็นว่าไม่ควรตื่นตระหนกจนเกินไป ทุกภาคส่วนควรปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดการระบาดระลอกใหม่ซ้ำเติม เพราะที่ผ่านมาเห็นได้ชัดจากบทเรียนของการล็อกดาวน์ว่า มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมสูงมาก ทั้งผลกระทบโดยตรงจากการหยุดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และทางอ้อมจากการบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชนและผู้ประกอบการ
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนสูงขึ้น หลังจากมีการแพร่ระบาดของโอมิครอนเกิดขึ้นในประเทศทางแอฟริกา และเริ่มตรวจพบในหลายประเทศมากขึ้นรวมถึงไทย ‘โอมิครอน’ จึงกลายเป็นความเสี่ยงใหม่ ต่อเศรษฐกิจในช่วงต้นปี 2565 ซึ่งยังต้องติดตามรายละเอียดที่ชัดเจนถึงความรุนแรงและรวดเร็วของสายพันธุ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด