บันทึกลับทุ่งใหญ่ฉบับเจ้าสัว เริ่มจากวันที่ 3 ก.พ. 61 นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) กับพวกมีนายยงค์ โดดเครือ คนขับรถ นางนที เรียมแสน แม่ครัว นายธานี ทุมมาศ นายพราน รวม 4 คน อ้างว่าเข้าไปท่องเที่ยวในเส้นทาง จากสำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก - หน่วยพิทักษ์ป่าทิคอง - หน่วยพิทักษ์ป่ามหาราช โปรแกรม 2 วัน 1 คืน (เส้นทางที่เปิดให้ท่องเที่ยวชื่อ ทินวย-ทิคอง-มหาราช ระยะทาง 30 km)
นายเปรมชัย ซึ่งอ้างว่าเป็น "แขกของนาย" ขอเข้าพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก โดยไม่ต้องมีใบอนุญาต
กระทั่ง หัวหน้าวิเชียร ชิณวงษ์ ควบคุมตัว นายเปรมชัย กับพวกที่มีหลักฐานการลักลอบเข้าไปล่าสัตว์ ได้เมื่อวันที่ 4 ก.พ.61
บันทึกนี้ มากจากคำบอกเล่า การบันทึกของเจ้าหน้าที่ และการลงพื้นที่ด้วยตัวเอง
จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณริมห้วยปะชิ อยู่ก่อนถึงหน่วยมหาราช ด่านสุดท้ายของเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ระยะทาง 30 กม. จาก"ทินวย-ทิคอง-มหาราช"
นี่จึงเป็นบันทึกจาก "คนข่าว" ที่เข้าไปยังจุดเกิดเหตุ บริเวณห้วยปะชิ ถึง 3 ครั้ง ใน 2 สัปดาห์
และภายในระยะ 1 ตารางกิโลเมตร ผมเดินย่ำเท้าเข้าไปหลายต่อหลายจุด ซึ่งมีความสำคัญ
บันทึกลับทุ่งใหญ่ฉบับเจ้าสัว ตอนที่ 2 เพื่อให้รู้ว่า นายเปรมชัย ใช้เส้นทางไหนขึ้นไปที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก
เจ้าหน้าที่เช็กเส้นทางจากกล้องวงจรปิดหลายร้อยตัว และจากข้อมูลที่เช็กได้ วันที่ 3 ก.พ.61 นายเปรมชัย ใช้รถโตโยต้า แลนด์ครุยส์เซอร์ สีน้ำตาลอ่อน ทะเบียน 7กค2192 กทม. เดินทางออกจาก จ.กาญจนบุรี ใช้ ทล.323. ผ่านอนามัยท่ามะนาว - ตู้ยามช่องสะเดา เลี้ยวซ้าย ไปรับนายธานี ทุมมาศ แล้วย้อนกลับมาที่ตู้ยามช่องสะเดา เลี้ยวซ้ายไปทาง ทล.323 เลี้ยวขวาเข้าน้ำตกเอราวัณ
ใช้ ทล.3457 ไปเส้นทางริมเขื่อนท่าทุ่งนา
ทล.3199 ผ่านแถวน้ำตกเอราวัณ น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น เลี้ยวซ้ายไป ทล 6092 ขึ้นไปทุ่งใหญ่ฯ
ภาพจากกล้องวงจรปิดจุดแรก จับภาพรถนายเปรมชัย วิ่งผ่านรพ.ส่งเสริมสุขภาพท่ามะนาว ใกล้บ้านนายธานี กำลังมุ่งหน้าไปแยกสะเดา เวลา 09.47.55
กล้องจุดที่สอง ที่หน้าตู้ยาม(ตำรวจ)ช่องสะเดา ตรงสามแยกช่องสะเดา รถนายเปรมชัย เลี้ยวซ้าย มุ่งหน้าไป อ.ทองผาภูมิ
เวลา 10.04.16 คณะของ นายเปรมชัย มาถึงสำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ในเวลา 15.00 น.โดยประมาณ
ณ จุดตรวจบริเวณสำนักงานเขตฯ บันทึกการเข้าออก ได้มีการนำไปตรวจสอบการเข้า และออก ของบุคคลอื่น ในช่วงวันที่ 3-6 ก.พ.61
พบพิรุธ การเข้า และออก ของบุคคลอื่นนอกเหนือจากคณะนายเปรมชัย
ดังนั้น จึงต้องเรียกเจ้าหน้าที่ประจำด่านฯที่เข้าเวรระหว่างวันที่ 3-6 ก.พ.61 มาสอบสวน ทั้งที่ส่วนกลาง และที่สภ.ทองผาภูมิ
จากข้อมูลที่ได้รับการยืนยัน ในช่วงวันที่ 3 ก.พ.61 มีรถยนต์อีก 2 คัน ที่ลงไว้ในบันทึกการผ่านเข้าออก รถทั้ง 2 คันนั้นเป็นคนในพื้นที่
เจ้าหน้าที่สอบปากคำคนในรถทั้ง 2 คัน แล้ว เชื่อว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับนายเปรมชัย
ส่วนรถนายเปรมชัย ไม่ได้ลงบันทึกเข้า ออก แสดงว่า นายเปรมชัย มีเจตนาเข้าไปโดยไม่ให้ทิ้งร่องรอยใดๆ เอาไว้
จากหลักฐานทั้งหมดนี้ ทำให้เห็นตั้งแต่เริ่มต้นการเข้าป่าของนายเปรมชัย และพวก
ต่อมา นายนพดล พฤกษะวัน อดีตข้าราชการกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ยอมรับกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ว่า ตนเองเป็นผู้ประสานไปยังนางสาวกาญจนา นิตยะ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า เพื่อขอให้นายเปรมชัย และพวก เข้าพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก จริง
ส่วนการพิสูจน์ทราบพื้นที่เกิดเหตุ สื่อมวลชน จำนวนหนึ่ง ได้เดินทางไปที่ห้วยปะชิ ครั้งแรกวันที่ 7 ก.พ.61 และได้เห็นสภาพพื้นที่จุดตั้งแคมป์ ของนายเปรมชัย ทราบจุดยิงเสือดำ จุดชำแหละเสือดำ และหลักฐานหลายอย่าง
และยังพบกองอุจจาระคน และทิชชูใช้แล้ว อยู่ริมถนน จุดตัดผ่านลำห้วยปะชิ ที่แห้ง (พฐ./จุดที่6) อยู่ทางทิศตะวันตก ของจุดที่พบปลอกกระสุน เบอร์ 20 เพียง 1.5 เมตร (พฐ./จุดที่1) อยู่ทางทิศใต้
ห่างจากจุดที่พบซากเครื่องในเสือดำ (พฐ.จุดที่ 2) ขน (พฐ.จุดที่ 3) เกลือ (พฐ.จุดที่ 4) และเลือด (พฐ.จุดที่ 5) เพียง 13 เมตร
คนๆ นี้ถ่ายทุกข์ ออกมาในวันเดียวกันกับที่มีการยิงเสือดำ และคนอีกคนกำลังชำแหละเนื้อ เถือหนังเสือดำ ในลำห้วยปะชิ จุดที่แห้ง และมันก็เป็นหลักฐานชั้นดีเยี่ยม มันจะเผยให้เห็นดีเอ็นเอ คนๆ หนึ่ง ที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ไม่รู้ไม่เห็นการ "ยิงเสือดำ "ผลตรวจพิสูจน์หลักฐานนี้ จึงสำคัญมาก สำหรับเจ้าหน้าที่เพื่อใช้มัดผู้เป็นเจ้าของกองอุจจาระ และร่วมทำผิดในข้อหา "ร่วมกันฆ่าเสือดำทุ่งใหญ่นเรศวร"
ติดตามต่อ ย้อนรอยคดีเสือดำ ก่อนศาลฎีกาชี้ชะตา “เปรมชัย”8ธ.ค.(3)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ย้อนรอยคดีเสือดำ ก่อนศาลฎีกาชี้ชะตา “เปรมชัย”8ธ.ค.(1)