svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เจาะประเด็นร้อน

ย้อนรอยคดีเสือดำ ก่อนศาลฎีกาชี้ชะตา “เปรมชัย”8ธ.ค.(1)

เหตุการณ์นายพรานป่ากิตติมศักดิ์เข้าไปล่า “เสือดำ” ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เมื่อ 3 กุมภาพันธ์ 2561 กลายเป็นข่าวใหญ่ที่ทุกคนเฝ้าคอยถึงบทสรุปของคดี นี่คือการย้อนความจำกลับไปสู่ “บันทึกลับ!นองเลือดเสือดำทุ่งใหญ่”

วันที่ 3 ก.พ.61 นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) กับพวกมีนายยงค์ โดดเครือ คนขับรถ นางนที เรียมแสน แม่ครัว นายธานี ทุมมาศ นายพราน รวม 4 คน อ้างว่าเข้าไปท่องเที่ยวในเส้นทาง จากสำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก - หน่วยพิทักษ์ป่าทิคอง - หน่วยพิทักษ์ป่ามหาราช โปรแกรม 2 วัน 1 คืน (เส้นทางที่เปิดให้ท่องเที่ยวชื่อ ทินวย-ทิคอง-มหาราช ระยะทาง 30 km)

 

วันที่ 4 ก.พ.2561 นายเปรมชัย ถูกจับกุมพร้อมกับนายยงค์ คนขับรถ นางนที แม่ครัว นายธานี นายพรานป่า โดยนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก

 

เหตุการณ์ก่อนการจับกุม ชุดลาดตระเวณใช้รถจักรยายนต์ตรวจสอบเส้นทาง จากหน่วยมหาราช ซึ่งอยู่บนสุดของเขตฯ ขับลงมาตามเส้นทาง และในเวลา 13.00 น. ได้พบกลุ่มคนชาย 3 หญิง 1 พักกันกางเต็นท์อยู่ติดถนน ข้างลำห้วยปะชิ จึงเข้าไปสอบถามเนื่องจากคนทั้ง 4 มีพิรุธ ส่อพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อสัตว์ป่า เนื่องจากจุดพักแรมเป็นจุดที่มีสัตว์ป่าชุกชุม เป็นพื้นที่เปราะบางทางระบบนิเวศ 

 

อีกทั้งในตอนเจ้าหน้าที่เข้าแสดงตน คนในกลุ่มมีลักษณะ “มึนเมา” เจ้าหน้าที่จึงแจ้งไปว่า ริมห้วยปะชิ เป็นจุดห้ามตั้งเต็นท์ค้างแรม ให้เปลี่ยนจุดพัก เมื่อตักเตือนเสร็จจึงขับรถจักรยานยนต์มาซุ่มดูพฤติกรรม พร้อมแจ้งนายวิเชียร ชิณวงษ์ ทราบ 

ย้อนรอยคดีเสือดำ ก่อนศาลฎีกาชี้ชะตา “เปรมชัย”8ธ.ค.(1)

14.00 น.ชุดซุ่มดู ได้ยินเสียงปืน 1 นัด ดังมาจากจุดตั้งแคมป์ จึงแจ้งหัวหน้าวิเชียร และได้รับคำสั่งให้ชุดลาดตระเวณอีกชุดไปตรวจดู 

 

ชุดลาดตระเวน ชุดที่ 2 ไปถึงจุดตั้งแคมป์ เวลา 16.00 น. พบว่า มีคนอยู่ ที่แคมป์ 3 คน คือ 1.เปรมชัย กรรณสูต คนกรุงเทพฯ 2.นายยงค์ โตคเครือ คนราชบุรี 3.นางนที เรียมแสง เป็นคนโคราช เมื่อค้นในแคมป์ พบเบ็ดธง เบ็ดตกปลา ซุกซ่อนในลักษณะอำพราง หัวหน้าชุดจึงแจ้งระเบียบอีกครั้ง ว่าห้ามกางเต็นท์นอกพื้นที่กำหนด

 

หลังเจ้าหน้าที่แจ้งว่าห้ามกางเต้นท์ นายเปรมชัย ซึ่งแสดงตนเป็นหัวหน้าคนกลุ่มนี้ ได้ต่อรองขอพักจุดเดิม พร้อมบอกว่าจะไปขออนุญาตกับหัวหน้าวิเชียร ด้วยตัวเอง แต่ขณะนั้น ชุดเจ้าหน้าที่สังเกตว่ามีคนหายไป 1 คน ผิดวิสัย จึงสั่งการปิดล้อมตรวจค้นอย่างละเอียด และมีเสียงปืนดังอีก 1 นัด จากนั้น 10 นาที นายเปรมชัย ได้ขับรถแลนด์ครุยส์เซอร์  ไปพบหัวหน้าวิเชียร ณ ที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก

 

มีพยานเป็นแม่ครัว เห็นเหตุการณ์ ว่านายเปรมชัย ขับรถมาพูดคุยกับหัวหน้าวิเชียร จริง

 

ส่วนเสียงปืน 1 นัด ที่เจ้าหน้าที่ได้ยิน และตามเสียงปืนไป เมื่อเวลา 16.30 น.พบชายคนหนึ่ง ในมือถือปืนลูกซองยาวปะทับไหล่พร้อมยิง จึงร้องห้าม และเข้าคุมตัว ทราบชื่อในเวลาต่อมาว่า นายธานี ทุมมาศ เป็นคนกาญจนบุรี จึงคุมตัวมาที่แคมป์ และส่งเจ้าหน้าที่อีกชุดย้อนไปตามเส้นทางการล่าสัตว์ของนายธานี จนไปพบลำห้วยปะชิ จุดที่แห้ง บนถนนเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 20 ยี่ห้อ BELLER&BELOT จำนวน 3 ปลอก เพิ่งยิงใหม่ 

 

ห่างจากจุดพบปลอกกระสุน ไป 15-19 เมตร ในลำห้วยที่แห้ง พบซากเครื่องในสัตว์ป่าที่เพิ่งควักออกจากสัตว์ยังใหม่สด ภายในบริเวณเดียวกัน พบเกลือถุงตราทหารอากาศ 2 ถุงซุกซ่อนอยู่ และยังพบขนสัตว์ป่าสีเทาดำ 1 กระจุก พบกองเลือด ติดที่ก้อนหิน 

ย้อนรอยคดีเสือดำ ก่อนศาลฎีกาชี้ชะตา “เปรมชัย”8ธ.ค.(1)

กระทั่ง 18.00 น. สำหรับป่าทึบ ถือว่าเริ่มมืดแล้ว หัวหน้าวิเชียร เดินทางมาถึงจุดที่นายเปรมชัย กับพวกตั้งแคมป์ จึงเข้าตรวจภายในแคมป์อย่างละเอียด และเริ่มค้นตัวนายธานี รวมถึงยึดปืนยาว .22 ยี่ห้อ CZ 452 ZKM SCOUT CZ-USA, Cansas city, US พร้อมกล้องเล็งเป้า สภาพพร้อมยิง เป็นปืนมีเลขทะเบียน ความยาวละกล้อง 40 เซนติเมตร ความยาวทั้งหมด 83 เซนติเมตร + กล่องเก็บกระสุน 106 นัด + กระสุนปืน .22 อีก 2 นัด โดยพบในกระเป๋ากางเกงนายะานี + มีดปลายแหลม 

ย้อนรอยคดีเสือดำ ก่อนศาลฎีกาชี้ชะตา “เปรมชัย”8ธ.ค.(1)

เจ้าหน้าที่กระจายกำลังค้นทั่วแคมป์ พบอุปกรณ์ทำครัว พบถังแช่เนื้อสด เปิดดูมีซากไก่ฟ้าหลังเทา มีแผลถูกยิง 6 ลูก กระสุนฝังใน 1 ลูก พบเนื้อเก้ง ประมาณ 1 กก. พบหม้อแกงปรุงอาหาร จากสัตว์ป่า

 

ห่างเต้นท์ไป 5 เมตร พบปืนยาว 2 กระบอกใช้วัชพืชอำพรางสายตา ตรวจสอบเป็นปืนไรเฟิล ยี่ห้อ STEYR-MENNLICHLR-M ลำกล้องยาว 60 ซม. ความยาวทั้งหมด 120 ซม. กระสุนยี่ห้อ WINCHESTER 30-06 SPPG บรรจุพร้อมใช้งาน และปืนกระบอกที่ 2 เป็นปืนยาวลูกซองแฝด เบอร์ 20 ยี่ห้อ AYA-AUGIRRE&ALANZABAL Made in spain ความยาวลำกล้อง 75 ซม.ความยาวทั้งหมด 115 ซม. ในรังเพลิง บรรจุกระสุนเบอร์ 20 ยี่ห้อ BELLER&BELOT ห่างไปทางทิศเหนือ 15 เมตร เจอซองปืนซุกในพงหญ้า

 

การตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ใช้เวลาล่วงเลยจนเข้ายามวิกาล เวลา 01.30 ของวันที่ 5 ก.พ. หัวหน้าวิเชียร สั่งห้ามคนอื่น หรือเจ้าหน้าที่เข้าไปในจุดตั้งแคมป์ โดยให้ยืนรายรอบเฝ้าแคมป์ไว้เท่านั้น 

 

จากนั้น ในเวลา 02.30 น. หัวหน้าวิเชียร นำตัวคนทั้ง 4 พร้อมรถยนต์โตโยต้าแลนด์ครุยเซอร์ สีน้ำตาล อาวุธปืน ซากสัตว์ป่า ลงมาที่สำนักงานเขตฯ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุ ระยะทาง 23 กม. 

 

หัวหน้าวิเชียร และเจ้าหน้าที่ฯ ได้ย้อนกลับไปตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกในเวลาเช้า ของวันที่ 5 ก.พ.61

 

ผลการตรวจค้นโดยละเอียดเจ้าหน้าที่พบถุงดำ ซุกอำพรางอยู่ห่างจากจุดตั้งแคมป์ ในทิศทางเดียวกับที่ตรวจพบอาวุธปืนยาว 5 กระบอก 

 

ภายในถุงดำ เมื่อเปิดออกมา พบเป็นหนังเสือดำ มีการถนอมซากด้วยเกลือ วัดความยาวจากหัวถึงสะโพก 83 ซม. จากหัวถึงหาง 148 ซม. พบกะโหลกเสือดำ 1 หัว พบซากเสือดำในถุงดำ น้ำหนักไม่รวมหนังเสือ 10.6 กก. 

ย้อนรอยคดีเสือดำ ก่อนศาลฎีกาชี้ชะตา “เปรมชัย”8ธ.ค.(1)

ไม่ห่างกันกับจุดที่พบถุงดำใส่หนังและกะโหลกเสือดำ พบกระเป๋าซ่อนในพงหญ้า ภายในมีกระสุนปืนชนิดต่างๆ ประมาณ 100 นัด และน้ำมันล้างปืน ไฟฉาย ช้อนส้อมพับได้ มีดพับได้

 

จากหลักฐานทั้งหมด เจ้าหน้าที่เชื่อว่านายเปรมชัย และพวกมีเจตนาเข้ามาล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ไม่ใช่นักอนุรักษ์ เข้ามาศึกษาธรรมชาติ ตามที่นายเปรมชัย อ้างกับเจ้าหน้าที่หน้าด่าน 

 

ติดตามต่อ ย้อนรอยคดีเสือดำ ก่อนศาลฎีกาชี้ชะตา “เปรมชัย”8ธ.ค.(2)