"โอไมครอน" องค์การอนามัยโลก (WHO) ตั้งชื่อโควิด-19 ตัวกลายพันธุ์ B.1.1.529 ที่พบในภูมิภาคแอฟริกาตอนใต้ โดยเป็นการเรียกชื่อตามลำดับอักษรกรีก พร้อมประกาศให้เป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล (variant of concern) เนื่องจากมีแนวโน้มแพร่กระจายได้เร็วกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้า
โควิดสายพันธุ์ใหม่ กำลังกระจายไปสู่ทวีปยุโรป เบลเยียม อังกฤษ อิตาลี เยอรมนี
ล่าสุดสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า "ซาจิด จาวิด" รัฐมนตรีสาธารณสุข ประกาศอังกฤษพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนแล้ว 2 ราย เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยทั้งคู่มีความเชื่อมโยงกับการเดินทางไปแอฟริกาใต้
ต่อมา "บอริส จอห์นสัน" นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้ออกมาตรการ ซึ่งรวมถึงข้อกำหนด เรื่องการตรวจหาเชื้อที่เข้มงวดขึ้นสำหรับผู้ที่เดินทางเข้าประเทศ แต่ไม่ได้ออกมาตรการที่เข้มงวด เกี่ยวกับการจัดกิจกรรมทางสังคม เพียงแต่ขอให้ประชาชนสวมหน้ากากในบางพื้นที่
โดยกำหนดให้ทุกคนที่เดินทางเข้าอังกฤษทำการทดสอบ PCR ภายในวันที่สอง หลังจากเดินทางมาถึง และให้กักตัวจนกว่าจะทราบผลว่าเป็นลบ ส่วนใครที่เคยสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ ที่คาดว่าจะเป็นสายพันธุ์ "โอไมครอน" จะต้องกักตัวเป็นเวลา 10 วัน และรัฐบาลจะใช้กฎการสวมหน้ากากให้เข้มงวดยิ่งขึ้น
ขณะที่ กระทรวงสาธารณสุขรัฐบาวาเรีย ของ เยอรมนีประกาศพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ "โอไมครอน" 2 ราย ซึ่งเดินทางเข้าเยอรมนี ผ่านทางสนามบินมิวนิก เมื่อวันที่ 24 พ.ย.
จากนั้นเยอรมนีจะประกาศว่า แอฟริกาใต้เป็นพื้นที่แพร่ระบาด"โควิดสายพันธุ์ใหม่" โดยขณะนี้ทั้งคู่อยู่ระหว่างกักตัว แต่ทางเยอรมนี ไม่ได้ระบุรายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากแอฟริกาใต้
ส่วนอิตาลี สถาบันสุขภาพแห่งชาติระบุว่า พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่ 1 ราย ในเมืองมิลาน ซึ่งเป็นผู้ที่เดินทางมาจากโมซัมบิก
ด้านเจ้าหน้าที่สาธารณรัฐเช็กเผยว่า กำลังตรวจสอบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อสายพันธุ์ดังกล่าว 1 ราย ซึ่งเคยใช้เวลาอยู่ที่นามิเบีย
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของเนเธอร์แลนด์ เผยว่า โควิดสายพันธุ์โอไมครอน อาจจะปะปนมากับผู้โดยสาร 61 คน ที่มีผลตรวจโควิดเป็นบวก หลังจากที่พวกเขาเดินทางมาใน 2 เที่ยวบินจากแอฟริกาใต้