- 25 พ.ย. 2564
- 238
สุดทน“แอมเนสตี้”! อดีตแกนนำเสื้อแดงตั้งโต๊ะลงชื่อประชาชนขับไล่ออกจากประเทศ ชอบจุ้นทำตัวเหนืออำนาจกฎหมายและวัฒนธรรมจารีตประเพณีของคนไทย “นิตยา นาโล” จวกยับ เคยถูกพวกล้มเจ้า หลอกให้ล่ารายชื่อไปยกเลิก ม.112 ครั้งนี้สุดทน ขอปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์
25 พฤศจิกายน 2564 ที่ ศูนย์เรียนรู้กลุ่มวิสาหกิจชุมชน บ้านอ่างหิน ต.ธงชัยเหนือ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา นางนิตยา นาโล หรือ “นักสู้ปอสี่” อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคอีสาน ได้เชิญตัวแทนอดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดง 20 จังหวัดภาคอีสาน เพื่อมารับทราบ การจะนำรายชื่อประชาชนจำนวน 1 ล้านชื่อ ขับไล่กลุ่ม “แอมเนสตี้ อินเตอร์ เนชั่นแนล ประเทศไทย” ออกจากประเทศไทย
เหตุผลในการดำเนินการ เนื่องจาก กลุ่ม “แอมเนสตี้ อินเตอร์ เนชั่นแนล ประเทศไทย” มักชอบอ้างตัวเองว่า เป็น “กลุ่ม NGO” ระหว่างประเทศ ออกช่วยเหลือปกป้องสิทธิมนุษยชนทั่วโลก จึงได้พากันตั้งโต๊ะให้ประชาชนได้มาลงชื่อ ตามแคมเปญของ ดร.เสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ “แรมโบ้” ได้ประกาศเอาไว้
นางนิตยา นาโล อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคอีสาน เปิดเผยว่า การที่พวกตนได้ออกมาตั้งโต๊ะให้ประชาชนมาลงชื่อเพื่อขับไล่กลุ่ม “แอมเนสตี้ อินเตอร์ เนชั่นแนล” ในครั้งนี้ เพราะต้องการออกมาปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ พวกเรามีหัวใจรักในพระเจ้าแผ่นดินของพวกเรา ที่ผ่านมาแม้แต่เงินเหรียญบาทตกที่มีรูปของพระเจ้าแผ่นดิน พวกเราเองก็ไม่กล้าจะเดินข้ามแต่อย่างใด
“แต่วันนี้ กลุ่ม “แอมเนสตี้” หรือ “NGO” ที่คอยสนับสนุนยุยงส่งเสริมกลุ่มนักเรียน นักศึกษา หรือ ม็อบต่าง ๆ ที่จะล้มล้างสถาบันและยกเลิก ม.112 พวกเรายอมไม่ได้ จึงได้ออกมาตั้งโต๊ะให้ประชาชนมาลงรายชื่อกัน เพราะประชาชนชาวรากหญ้าอย่างพวกเรา อาจจะไม่เก่งเรื่องอินเตอร์เน็ต ไม่เข้าใจการลงชื่อทางแอพฯ แต่พวกเรามีความจงรักภักดีต่อ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จึงขอลงชื่อในกระดาษ แล้วจะนำรายชื่อดังกล่าวไปมอบให้กับทาง ดร.เสกสกล ที่กรุงเทพฯ อีกต่อไป”
นางนิตยา กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา กลุ่มแอมเนสตี้ ได้ร่วมกับทางอาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ออกไปหาพวกตน เพื่อล่ารายชื่อ 1 แสนคน จะขอยกเลิก ม.112 ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553-2554 ตอนที่ไปหาพวกเรา โกหกบอกว่า จะเอารายชื่อไปสนับสนุนปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ จนทำให้พวกเราหลงเชื่อ และถูกประชาชนชาวไทยหลายคนประณามเข้าใจผิดว่า พวกตนคือ “หมู่บ้านเสื้อแดงล้มเจ้า ล้มพระเจ้าแผ่นดิน”
ต่อมา พวกเราได้มาเจอและพูดคุยกับทาง ดร.เสกสกล อัตถาวงศ์ เพื่อจะขอชี้แจงความเป็นจริงที่เกิดขึ้น พร้อมกันนั้นก็ต้องการที่จะทำตามหัวใจของพวกเราที่มีความจงรักภักดีต่อ “พระเจ้าแผ่นดิน” ของคนไทยทั้งประเทศ ซึ่งครั้งนี้ พวกเราชาวอีสานทั้ง 20 จังหวัด จะไม่ยอมให้พวก NGO มาหลอกลวงตนและประชาชนตามหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ และ จังหวัดต่าง ๆ อีกต่อไปแล้ว
“พวกเราจะขอต่อสู้ถวายชีวิต เพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยครั้งต่อไป พวกเราจะไปตั้งโต๊ะลงชื่อตามอำเภอและจังหวัดต่าง ๆ ทั่วทั้งภาคอีสาน เพื่อจะได้รายชื่อให้ครบ 1 ล้านชื่ออย่างรวดเร็ว เพราะต้องการจะเห็น แอมเนสตี้ ออกจากประเทศไทยไปโดยเร็วที่สุด”
ด้านนายอานนท์ แสนน่าน ผู้ริเริ่มก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงแห่งประเทศไทย ได้กล่าวว่า การที่ แอมเนสตี้ ออกแถลงการณ์ว่า ทางกลุ่มไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับการเมืองแต่อย่างใด ตนขอบอกเลยว่า “อย่าตอแหX” เลย เพราะการกระทำที่พวกคุณทำยุยงส่งเสริมฝ่ายที่ไม่เห็นดีกับรัฐบาลที่คอยปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยจะให้การสนับสนุนทั้งทุนทรัพย์และบุคลากรทางปรัชญา
วันนี้ พวกเรา “อดีตหมู่บ้านเสื้อแดง” ทั่วประเทศไทย จะถอดหน้ากากชาวต่างชาติที่อยู่เบื้องหลัง คอยฝังตัวเองอยู่ตามชนบท โดยเฉพาะภาคอีสานที่มีฝรั่งบางคนไปแต่งงานมีภรรยาเป็นคนไทยอีสาน เอาเงิน เอาความสุขไปให้เพื่อปลุกปั่นให้เกลียดชังเจ้า หรือ ล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์
กลุ่มนี้จะแฝงตัวเองเป็นอาจารย์สอนพิเศษตามมหาวิทยาลัยดังๆ บางคนก็มีภรรยาเป็นอาจารย์ชักจูงนักเรียนและนักศึกษา ออกไปรณรงค์ให้ประชาชนชาวรากหญ้า เกลียดชังสถาบันพระมหากษัตริย์ และที่ทาง “แอมเนสตี้” บอกว่า เงินทุกบาททุกสตางค์ไม่เคยได้รับการสนับสนุนจากต่างประเทศ หรือนายทุนแต่อย่างไรเลยครับ
“ขอบอกว่าพวกคุณหลอกอาจารย์มหา’ลัย หลอกนักเรียน นักศึกษาบางคนได้ แต่อย่ามาหลอกพวกเราที่เป็นประชาชน ออกมาเป็นนักสู้เรียกร้องเพื่อปากท้องของประชาชนอย่างแท้จริง ตนทราบดีว่า เงินมาจากไหน แล้วทำไมพวกตนหรืออดีตแกนนำเสื้อแดงหลายคน มีเงินหลายล้านบาทมาสร้างสถานีวิทยุกระจายเสียง ออกมาต่อสู้กับรัฐบาลที่ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ แม้แต่ของ “สถานีวิทยุกระจายเสียงหมู่บ้านเสื้อแดง” เคยทำผ้าป่าไปแล้ว ได้เงินเพียง 36,000 บาท แต่ทำไมพวกเรามีปัญญาสร้างสถานีวิทยุฯ ได้ด้วยงบประมาณกว่า 5,000,000 บาท อย่าให้พวกเราที่ทำงานเพื่อประชาชนจริง ๆ ออกมาพูดไปมากกว่านี้เลย” นายอานนท์ฯ กล่าว.
ภาพ/ข่าว : ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ