"ดร.ยุทธพล" เดินหน้าเร่งปรับปรุงเกาะพลับพลา น้อมรำลึกในหลวงรัชกาลที่ 9

24 พฤศจิกายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดเพชรบุรี ดร.ยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานการประชุม เพื่อกำหนดการกิจกรรมพัฒนาเกาะพลับพลา อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยมีนายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวนการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่เข้าร่วมประชุม

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง >> "ยุทธพล" หนุนอุทยานฯ-คนเพชร ปรับปรุงเกาะพลับพลา ตอบรับท่องเที่ยวมรดกโลก

ที่ปรึกษา รมว.ทส. กล่าวว่า จังหวัดเพชรบุรี สานนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เตรียมพร้อมการบูรณะพลับพลาที่ประทับ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ที่เกาะพลับพลา เขื่อนแก่งกระจาน ซึ่งเกาะพลับพลาแห่งนี้ ในอดีตเป็นพื้นที่รับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระบรมวงศานุวงศ์ เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินเยือนเขื่อนแก่งกระจาน ปี พ.ศ.2516, พ.ศ 2518 ซึ่งชาวเมืองเพชรบุรีได้ให้ความสำคัญ โดยเรียกเกาะพลับพลานี้ว่า "เกาะในหลวง"

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง >> อช.แก่งกระจาน พร้อมเปิดให้ขึ้น "พะเนินทุ่ง" 15 ตุลาคมนี้

ดร.ยุทธพล กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา ตนได้ลงพื้นที่เกาะพลับพลา อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ตรวจสอบพื้นที่ พบสภาพพลับพลาชำรุดทรุดโทรม จึงประสานงานหน่วยงานเกี่ยวข้อง เร่งพัฒนา ปรับปรุง ให้กลับคืนสู่สภาพที่สมบูรณ์ โดยในวันที่ 1 ธันวาคม ซึ่งเป็นเดือนแห่งมหามงคล ที่มีวันที่ 5 ธันวาคม เป็นวันพ่อแห่งชาติ ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน มาร่วมกัน รำลึกเรือนพลับพลา ร่วมพัฒนาเกาะในหลวง เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงมีต่อชาวเมืองเพชรบุรี

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง >> "แก่งกระจาน" คึกคัก นทท.ชมธรรมชาติ พร้อมเปิดพะเนินทุ่ง

ทั้งนี้ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวเพิ่มเติมว่า การพัฒนาเกาะพลับพลา หรือเกาะในหลวง เพื่อให้ประชาชนมีโอกาสได้น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 นอกจากนั้น ยังสามารถส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง ที่จะสร้างความประทับใจ ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ สามารถที่จะดึงเม็ดเงินจากการท่องเที่ยว เข้ามากระจายสู่ท้องถิ่น กระจายรายได้ถึงมือชาวบ้าน ที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต ของประชาชนในพื้นที่ชุมชนอีกด้วย