เพิ่ม nation online
ลงในหน้าจอหลักของคุณ
22 พฤศจิกายน 2564 ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี ประจำจุดตรวจคลองจั่น,ร้อย.ร.2521 ได้ทำการสืบทราบติดตามพฤติกรรมรถกระบะต้องสงสัย โดยมีประชาชนในพื้นที่ แจ้งข่าวสารว่า่มีการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ รถคันดังกล่าว มีพระภิกษุ นั่งข้างคนขับ มีคนนั่งในส่วนแค๊ปหลัง และจะขับไม่ซ้ำเวลา มักใช้เส้นทาง บ้านหินใหญ่ ม.6 ต.จปร. อ.กระบุรี จ.ระนอง รอยต่อบ้านทรายอ่อน ม.17 ต.รับร่อ จ.ชุมพร เป็นประจำ ซึ่งเส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางรอง มุ่งหน้าจ.ชุมพร
จากนั้น ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญทราบ พร้อมจัดกำลังพร้อมอาวุธคบมือร่วมกับผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6, หมู่ 8 และเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) กระจายกำลังตามจุดต่างบนเส้นทางดังกล่าวทำการตั้งจุดตรวจจุดสกัด ตั้งแต่ช่วงดึกวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา
กระทั่งเกือบถึงเวลาช่วงเช้ามืด วันที่ 22 พ.ย. 64 ตรวจพบรถยนต์กระบะแคป ยี่ห้อ โตโยต้าวีโก้ โฟวิล สีบรอนเงิน ทะเบียนจังหวัดชุมพร เจ้าหน้าที่ได้เรียกให้จอด พร้อมสอบถามข้อมูลเบื้องต้น
จากการสอบถามทราบว่า คนขับชื่อ นายวัลลภ พูนบางยุง อายุ 49 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชนเป็นคน จ.สมุทรสาคร ใส่เสื้อคลุมกรมการปกครอง สวมหมวกมีเครื่องหมายและข้อความ "รัฐสภา" และข้างคนขับพบ พระหนึ่ง ชยันโต ชาวเมียนมา อายุ 41 ปี พระลูกวัด วัดตะแบกโพรง ต.อ่างทอง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ และมีชาวเมียมา ไม่มีเอกสารหนังสือเดินทาง จำนวน 6 คน นั่งอยู่ภายในรถคันดังกล่าว
พระหนึ่ง ชาวเมียนมา ให้การว่า ไปรับชาวเมียนมาที่เดินทางข้ามมาโดยเรือหางยาวที่ ต.มะมุ เสียค่านั่งเรือมาคนละ 20 บาท เพื่อไปส่งที่มาบอำมฤต อ.ปะทิว จ.ชุมพร โดยไม่ได้รับค่าจ้างเป็นจำนวนเงินเหมือนกับขบวนการขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง แต่ พระหนึ่ง จะได้รถเก่ง 1คัน เป็นค่าตอบแทน
“ทำมาแล้ว 4 ครั้ง ครั้งที่ 1 จำนวน 2 คน ครั้งที่ 2 จำนวน 3 คน ครั้งที่ 3 จำนวน 4 คน ครั้งที่ 4 จำนวน 6 คน โดยจ้าง นายวัลลภ ครั้งละ 5,000 บาท เพื่อขับรถยนต์ นำพาไปส่งที่โรงงาน ในพื้นที่ตำบลมาบอำมฤต อ.ปะทิว จ.ชุมพร” พระหนึ่ง ให้การรับสารภาพ
จากนั้นชุดจับกุมได้ประสาน ตำรวจ สภ.ปากจั่น และตำรวจตรวจคนเข้าเมืองระนอง นำชาวเมียนมาทั้ง 6 คน พระหนึ่งและคนขับดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ภาพ/ข่าว โดย : ไพโรจน์ รัตนรัตน์ จ.ระนอง