หาดทรายขาวสะอาดและน้ำทะเลใส ที่ชายหาด ซาชอน ในเมืองคังนึง จังหวัดคังวอน ทางภาคตะวันออกของเกาหลีใต้ เคยดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักเล่นเซิร์ฟอย่างไม่ขาดสาย แต่ขณะนี้มีสภาพเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วจนคนท้องถิ่นยังตกใจ
ชอย จอง-มิน เจ้าของเกสต์เฮาส์ในซาชอน บอกว่า คลื่นสูงกัดเซาะชายฝั่งหายไปอย่างมากในปีนี้ โดยเฉพาะในช่วงไต้ฝุ่นลูกหนึ่งพัดกระหน่ำในเดือน ส.ค.
เขาบอกว่า "น้ำทะเลไม่เคยซัดเข้าใกล้ชายฝั่งมากขนาดนี้ ไม่เคยเจอคลื่นสูงขนาดนี้มาก่อนในช่วง 12 ปีที่ผ่านมา" และกล่าวอีกว่า "ที่นี่เคยมีชื่อเสียงว่าคลื่นสงบ แต่ดูตอนนี้ คลื่นซัดแรงอย่างบ้าคลั่ง"
ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ บอกว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วได้ทำลายความสวยงามของชายหาดยอดนิยมที่สุดของประเทศบางแห่ง และแนวโน้มนี้เลวร้ายยิ่งขึ้นด้วยปัจจัยจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ที่ทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นและสภาพอากาศแปรปรวนไม่อาจคาดเดาได้
ผลสำรวจโดยกระทรวงมหาสมุทรและการประมงของเกาหลีใต้ ระบุว่า ชายหาด ซาชอน เป็นหนึ่งในชายหาด 43 แห่ง ที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่มีปัญหากัดเซาะชายฝั่งระดับรุนแรงประจำปี 2563 เพิ่มขึ้นจาก 12 แห่งในปี 2561
จนถึงปี 2562 ชายหาด ซาชอน ยังมีความกว้าง 40 เมตร แต่เมื่อเร็วๆนี้ พบว่า ชาดหาดแคบลงเหลือเพียงเกือบ 3 เมตร
น้ำทะเลที่ซัดกลืนชายหาดทำให้เจ้าของธุรกิจบางรายในบริเวณชายหาดต้องย้ายไปยังที่อื่น โดยในบางจุด ชายหาดกลายเป็นสันทรายสูงชันที่สูงถึง 5 เมตร ทำให้เกิดความวิตกเรื่องความปลอดภัยและส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวอีกด้วย เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น บอกว่า ทางการเตรียมถมทรายบริเวณชายหาดที่ถูกกัดเซาะเหล่านี้ และเตรียมจัดทำแผนฟื้นฟูในระยะยาว
แต่ผู้เชี่ยวชาญบางคน มองว่า ความเสียหายจากปัญหากัดเซาะชายฝั่งส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากแผนการพัฒนาเมืองในยุคแรกๆ ที่ขาดการคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
คิม อิน-โฮ หัวหน้าทีมสำรวจของจังหวัดคังวอน บอกว่า นักพัฒนาที่ดินในยุคแรกๆ มีการขุดย้ายสันทรายขนาดใหญ่เพื่อทำถนนเลียบชายหาด และสร้างกำแพงกันคลื่นใกล้กับชายฝั่งมากเกินไป ทำให้เกิดการกัดเซาะชายฝั่ง และโครงสร้างกำแพงกันคลื่นที่ไม่ได้ออกแบบตามหลักวิทยาศาสตร์ ยิ่งทำให้คลื่นมีความรุนแรงและกัดเซาะสันทราย แทนที่จะช่วยลดการกัดเซาะและความรุนแรงของสตอร์มเซิร์จ