svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

จับหนุ่ม ตุ๋นแรงงานไปต่างประเทศ ยึดทรัพย์ 8.2 ล้าน

16 พฤศจิกายน 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เจ้าหน้าที่รวบตัวหนุ่มแสบเปิดบริษัทต้มตุ๋นทำงานต่างประเทศ พร้อมยึดทรัพย์ 8.2 ล้าน มีผู้เสียหายหลงเชื่อ บางคนจำนองที่นาจ่ายค่านายหน้าจนสุดท้ายต้องถูกยึดที่ดินทำกิน

16 พฤศจิกายน 2564 ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.อุดรธานี พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี แถลงข่าวจับนายไสว หรือกัณภัทร์ อาจสมัย อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 294 หมู่ 11 ต.หนองหาน อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ จ 257/2564 ลงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2564  

 

จับหนุ่ม ตุ๋นแรงงานไปต่างประเทศ ยึดทรัพย์ 8.2 ล้าน


แจ้งข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง ร่วมกันหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางานหรือจัดส่งฝึกงานต่างประเทศได้ โดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวงและร่วมกันปลอมและใช้หรืออ้างเอกสารราชการปลอม ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน”

 

ทั้งนี้ จับกุมได้ที่โฮเทลแห่งหนึ่ง ต.นาดี อ.เมือง จ.อุดรธานี ตรวจยึดบ้าน ที่ดิน รถยนต์เก๋ง รถปิกอัพ รถบรรทุกเล็ก รวม 7 คัน รวมมูลค่า 8.2 ล้านบาท ควบคุมตัวไปโรงพักทำการสอบสวน  

 

จับหนุ่ม ตุ๋นแรงงานไปต่างประเทศ ยึดทรัพย์ 8.2 ล้าน

 

 

 


 

นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.อุดรธานี เปิดเผยว่า มีผู้เสียหายที่โดนหลอกจากการอ้างว่าสามารถส่งไปทำงานที่ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้ ซึ่งมีผู้เสียหายมาร้องทุกทั้งหมด 28 ราย ในการสืบสวนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พบพฤติการณ์ในการหลอกลวงใช้สื่อออนไลน์ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2562-2564 แล้วก็นำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหารวมมูลค่าเสียหาย 2.3 ล้านบาท

จับหนุ่ม ตุ๋นแรงงานไปต่างประเทศ ยึดทรัพย์ 8.2 ล้าน

ผู้ต้องหายังกระทำความผิดอีกหลายข้อกฎหมายทั้งการหลอกลวง และการปลอมแปลงเอกสารของทางราชการ ซึ่งก็ต้องขอบคุณผู้เสียหายที่พบเห็นความผิดปกติของทางเพจจึงได้เข้ามาร้องเรียนที่จัดหางานจังหวัด และแจ้งตำรวจจนจับกุมผู้ต้องหา 

 

จับหนุ่ม ตุ๋นแรงงานไปต่างประเทศ ยึดทรัพย์ 8.2 ล้าน


ว่าที่ ร.ท.อนุเทพ ศรีดาวเรือง จัดหางานจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า มีประชาชนมาแจ้งว่า โดนนายกัณภัทร์ หรือนายไสว อาจสมัยได้ชักชวนว่าสามารถจัดส่งไปทำงานที่ประเทศออสเตรเลีย เกาหลีใต้ ในตำแหน่งคนงานเกษตรจะได้ค่าจ้างเดือนละ 8 หมื่นบาท โดยจะเสียค่าบริการและค่าใช้จ่าย 3-9 หมื่นบาท มีผู้เสียหายหลงเชื่อรวม 28 คน

 

หลังได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่จัดหางานได้ตรวจสอบประวัตินายกัณภัทร์ พบว่าไม่ได้รับอนุญาตให้จัดหางาน หรือเป็นตัวแทนหรือลูกจ้างบริษัทจัดหางานไปต่างประเทศ จึงได้รวบรวมพยานและหลักฐาน มอบหมายให้นิติกรร้องทุกข์กล่าวโทษ แจ้งความที่ สภ.เมืองอุดรธานี ข้อหา หลอกลวงผู้อื่นว่า สามารถจัดหางาน ส่งไปฝึกงานที่ต่างประเทศได้โดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวงมีโทษจำคุกตั้งแต่ 3-10 ปี ปรับตั้งแต่ 60,000-300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ  

 

จับหนุ่ม ตุ๋นแรงงานไปต่างประเทศ ยึดทรัพย์ 8.2 ล้าน


 

พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี  กล่าวว่า จ.อุดรธานี เป็นจังหวัดที่มีการส่งแรงงานไปทำงานต่างประเทศเป็นรายได้หลักของจังหวัดอุดรธานี ได้มีมิจฉาชีพเป็นคนจังหวัดอุดรธานี เปิดโชเซียลมีเดียล ตั้งเพจเฟซบุ๊ก ในปี 2562 โดยมีการปลอมเอกสารทางราชการ ทั้ง 3 ส่วน ทั้งบัตรประชาชน ใบอนุญาตประกอบธุรกิจท่องเที่ยว และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อให้ประชาชนเชื่อ ในช่วงปี 62-64 มีสถานการณ์โควิด มีการผัดผ่อนเรื่อยมา จนกระทั่งประชาชนรู้สึกว่าช้าเนิ่นนาน จึงได้ร้องเรียนกับจัดหางานจังหวัดอุดรธานี ตำรวจจึงให้กองกำกับการสืบสวนจังหวัดอุดรธานี ร่วมกับจัดหางาน สืบสวนหาข้อเท็จจริง พบว่าผู้เสียหาย 28 ราย มีความเสียหายเกิดขึ้นจากการหลอกลวงจากนายกัณภัทร์ หรือนายไสว อาจสมัย จึงได้ออกหมายจับและจับกุม  

จับหนุ่ม ตุ๋นแรงงานไปต่างประเทศ ยึดทรัพย์ 8.2 ล้าน


”นอกจากนี้ยังมีการทำผิดเช่นการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ การฉ้อโกงประชาชน การหลอกลวงจัดหางาน รวมถึงการปลอมและใช้เอกสารปลอม ทั้งหมดนี้เป็นของราชการ จึงนำไปสู่ขบวนการยึดทรัพย์ 8.2 ล้านบาท เพื่อเข้าสู่ พรบ.ฟอกเงิน โดยมีนายวัชระ หรือณัฐวัฒน์ ไลรัตน์พล อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85 หมู่ 5 ต. ห้วยสามพาด อ.ประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นพนักงานบริษัทจีพีไทยแลนด์ กรุ๊ป ร่วมฉ้อโกงและหลอกลวงด้วย แต่ได้หลบหนี อยู่ในระหว่างติดตามจับกุม”   
น.ส.สุปราณี ดาษดา อายุ 23 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 23 หมู่ 8 บ้านดอนดู่ ต.บ้านจาน อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์  ผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อเดือนตุลาคม 2562 ได้รู้จักบริษัทจัดหางานจีพีไทยแลนด์ทางเฟซบุ๊ก และเมื่อเดือนกุมภาพันธุ์ 2563 ตนกับสามีมาสมัครงานไปทำงานประเทศออสเตรเลียที่บริษัทจีพี ไทยแลนด์ กรุ๊ป เลขที่ 164/4 ใกล้ตลาดรังษิณา ถนนอุดรดุษฎี เขตเทศบาลนครอุดรธานี โดยมีนายไสว หรือกัณภัทร์ เป็นเจ้าของอ้างว่าสามารถส่งไปทำงานเกษตรที่ประเทศออสเตรเลียได้ และจะต้องเสียค่าดำเนินการ 90,000 บาท รวมตนกับสามีเป็นเงิน 1.8 แสนบาท โดยตนนำที่นาไปจำนองกับนายทุน 2 แสนบาท และนำเงินไปให้บริษัท หลังจากนั้นก็ติดต่อไม่ได้ และไม่ได้เดินทางไปทำงาน จึงไปร้องกับจัดหางานจังหวัดอุดรธานี และแจ้งตำรวจจับ 

 

จับหนุ่ม ตุ๋นแรงงานไปต่างประเทศ ยึดทรัพย์ 8.2 ล้าน

 

ส่วนนางคำแป้ง คำหล้า อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27/1 หมู่ 8 บ้านโคกลาด ต.หนองไฮ อ.เมือง จ.อุดรธานี เล่าว่า เมื่อปี 2563 นายไสวฯ มาที่หมู่บ้านชักชวน น.ส.คำแพง คำหล้า อายุ 36 ปี ลูกสาวไปทำงานเกษตรที่ประเทศเกาหลีใต้ได้เงินเดือน 5 หมื่นบาท โดยเสียค่าดำเนินการ 1.2 แสนบาท ตนอยากให้ลูกไปทำงานเพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว ตนจึงนำที่นา 6 ไร่ไปจำนองกับนายทุน 2 แสนบาทนำไปจ่ายให้กับนายไสว จนกระทั่งปี 2564 นายไสวแจ้งมาว่าลูกสาวจะได้เดินทางไปทำงานแล้ว จึงไปซื้อเสื้อผ้าเครื่องใช้เตรียมเดินทาง แล้วไปส่งลูกสาวที่บริษัทนายไสว แต่ปรากฏว่าไม่ได้เดินทาง นายไสวอ้างว่าสนามบินเกาหลีปิดเพราะโควิดระบาดต้องกลับบ้านมาทำงานก่อสร้าง เพื่อรอเดินทางใหม่ครบ 1 ปี ไม่มีเงินไปไถ่ถอนที่นา ทำให้ถูกนายทุนยึดที่นาเป็นมรดกที่ตนได้มาจากแม่ พอไปสอบถามนายไสวที่บริษัท ปรากฏว่าบริษัทปิด จึงรู้ว่าถูกหลอก จึงไปแจ้งจัดหางานและตำรวจ  

 

ข่าวโดย - เศกสันติ กัลยาณวิสุทธิ์ 

 

 

logoline