คุณหญิงหน่อยล่องใต้ เชื่อ "บิ๊กตู่" อยู่ครบเทอม

 เวลา 16.00 น. 15 พฤศจิกายน 2564 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ พร้อมคณะ พรรคไทยสร้างไทย เดินทางลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร มีกลุ่มพลังมวลชน อสม.และอดีตผู้สมัคร สส.พรรคไทยรักไทย จำนวนหลายคนในพื้นที่นครศรีธรรมราช และจังหวัดทางภาคใต้ รอต้อนรับ จากนั้นคุณหญิงสุดารัตน์ เข้าไปกราบไว้พระบรมธาตุเจดีย์ โดยขณะเดินเข้ากราบไหว้พระบรมธาตุเจดีย์ คุณหญิงสุดารัตน์ มีการไลฟ์สดการเดินทางมากราบไหว้วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารตลอดเวลาด้วย
              ภายหลังจากกราบไหว้พระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราชเสร็จแล้ว คุณหญิงสุดารัตน์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ตนเดินทางมากราบไหว้พระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ซึ่งจะมากราบไหว้ทุกปี แต่ปีที่แล้วไม่ได้มา เนื่องจากโควิด วันนี้จึงเดินทางมาพร้อมกับประชุมทีมพรรคไทยสร้างไทยที่ จ.นครศรีธรรมราช อีกด้วยก็เลยได้มากราบสักการะ เพื่อความสิริมงคล
             
 ผู้สื่อข่าวถามว่าการเดินทางมาในวันนี้มีนัยยะทางการเมืองว่ารัฐบาลจะมีการยุบสภาหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ ตอบว่า อ่อ!ไม่มียุบหรอกค่ะ ลุงคงอยู่อีกนานและคงอยู่ไปจนหมดสมัย แต่ว่าเราก็มาทำงาน ส่วนวันนี้มาทำเรื่องพืชกระท่อม ในจังหวัดนครศรีธรรมราช เนื่องจากตนเพิ่งกลับจากอเมริกาได้เห็นโอกาสของพืชเศรษฐกิจใหม่ภาคใต้คือพืชกระท่อม เราเห็นในอเมริกาขายกระท่อมกัน บางรัฐอาจยังไม่ถูกกฎหมาย แต่หลายรัฐก็ถูกกฎหมายแล้วก็มีการขายเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปที่มีราคาสูงมาก
              “ เราก็ประสานกับเกษตรกรที่นี่ในการที่จะสนับสนุนให้มีการปลูกพืชเศรษฐกิจชนิดใหม่ก็คือ พืชกระท่อม แต่เราก็ให้อยากส่งเป็นวัตถุดิบไป ซึ่งจะได้ราคาไม่ดี อย่างน้ำกระท่อมเขาขายขวดหนึ่ง 12 เหรียญ หรือ 400 บาท ซึ่งน้ำเท่ากับน้ำชาเขียว ช็อคโกแลตที่ทำมาจากกระท่อมแท่งหนึ่งเกือบ 900 บาท และก็เป็นสินค้าที่ฮิตขายดี ก็เลยมาคุยกับเกษตรกรที่นี่”

              นอกจากจะสนับสนุนการปลูกแล้ว เราควรสนับสนุนให้มีการแปรรูป และเชื่อว่า อย.ก็คงจะอนุมัติให้มีการแปรรูปและส่งออกเร็วๆนี้ ก็ต้องขอบคุณรัฐมนตรีสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรมที่ได้ปลดล็อคพืชกระท่อมออกจากยาเสพติดและขอให้รัฐบาลทำให้สุดคือไม่ใช่ปลดล็อคอย่างเดียว ต้องงส่งเสริมให้เป็นพืชเศรษฐกิจที่ประชาชนได้มีการแปรรูปทำมาหากินและหารายได้เข้าประเทศ 
              ซึ่งสหรัฐประเทศเดียวมีมูลค่าถึง3หมื่นล้าน ซึ่งจะต้องให้การสนับสนุนเป็นพืชสมุนไพรที่สำคัญของประเทศต่อไป วันนี้กระท่อมก็ถือว่าเป็นพืชสมุนไพรที่มีผลนอกจากช่วยปวดเมื่อยแล้วยังช่วยลดเบาหวานเป็นภูมิปัญญาพื้นบ้านของเราอยากให้มีการศึกษาวิจัยแปรรูป และสร้างรายได้ให้กับพี่น้องเกษตรกรในภาคใต้

              คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวอีกว่า ในการเลือกตั้งสส.สมัยหน้าพรรคไทยสร้างไทยจะมีการส่งผู้สมัคร สส.ครบทุกเขตในภาคใต้ก็หวังว่าพี่น้องชาวนครศรีธรรมราชและพี่น้องชาวภาคใต้จะได้ให้พรรคไทยสร้างได้มีโอกาสได้รับใช้ เพราะว่าเรามีนโยบายสำคัญที่จะสู้เพื่อคนตัวเล็ก คนตัวเล็กในที่นี่ก็หมายถึงเอสเอ็มอี ผู้ประกอบการรายเล็กรายย่อยจนถึงเกษตรกร ซึ่งเป็นคนฐานใหญ่ของประเทศ แต่ว่ารายได้กลับหดหายแล้วก็เสียงไม่ดัง ไม่ได้ยินถึงรัฐบาล 

             ดังนั้นเราก็จะเพิ่มพลังให้กับคนตัวเล็ก การเพิ่มพลังก็มีการเพิ่มโอกาสด้านเงินทุน ด้านความรู้ด้านเทคโนโลยี รวมไปถึงเรื่องการตลาดที่วันนี้เรามาทำกระท่อมเป็นต้น และเราก็จะขจัดปัญหาอุปสรรคที่มันเป็นอุปสรรคทำมาหากินของคน
            สำหรับไทยสร้างไทยคิดว่าในยุคโควิดและหลังโควิดเราต้องส่งเสริมให้คนไทยลุกขึ้นมาทำมาหากินได้เร็วที่สุดและแข็งแรงที่สุดและขจัดทุกอุปสรรคที่เป็นปัญหาต่อการทำมาหากินเช่นกฎหมาย เราก็มีนโยบายออก พ.ร.ก.ฉบับหนึ่งที่จะยกเว้นการใช้กฎหมายและใบอนุญาตต่างประมาณ1,500ฉบับ ที่มันไม่มีความจำเป็นแล้วก็เป็นอุปสรรคต่อการทำมาหากินของคนตัวเล็กตัวน้อย ออก พ.ร.ก.เราใช้เวลาแค่3อาทิตย์

           “เราจะยกเว้นชั่วคราวประมาณ3-4ปีเพื่อให้คนได้ลุกขึ้นมาหากินได้เร็วที่สุด ไม่ใช่ให้เอากฎหมายมาเป็นข้อจำกัดแล้วก็หากินกันไม่ได้ และเป็นช่องทางแห่งการไถ่เงิน อันนี้เป็นนโยบายและทางใต้นั้นก็มีทั้งเรื่อง1.การท่องเที่ยว 2.เรื่องการแปรรูป เป็นศูนย์กลางการรูปสินค้าเกษตรไม่ว่าจะเป็นเรื่องยางพารา หรือสินค้าตัวใหม่อย่างพืชกระท่อมเป็นต้น"

ภาพ/ข่าว โดย : ชชาดล เจริญพงศ์  จ.นครศรีธรรมราช