เตือน 3 อำเภอ จ.ชุมพร เฝ้าระวังฝนตกหนัก

            สถานการณ์น้ำท่วมในอำเภอสวี จ.ชุมพรล่าสุด น.ส.พนิดา  เขียวรอดภัย ผช.ผญบ. หมู่ 4 ตำบลสวี นำข้าวกล่องจำนวน  290 กล่อง แจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่เดือดร้อนจากน้ำท่วม ในพื้นที่ ที่ยังมีระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 1-2 เมตร ประชาชนได้รับความเดือดร้อนประมาณ 12 หลังคาเรือน
           โดยเฉพาะบ้านเลขที่ 75  ของนางวาสนา อายุ 62 ปี อาศัยอยู่ด้วยกันที่หมด 4 ชีวิต มีบอนสีถูกน้ำท่วมเสียหายจำนวนมากค่าความเสียหายประมาณกว่า 40,000 บาท และทรัพย์สินอื่นๆภายในบ้านอีกเสียหายทั้งหมด โดยเมื่อ3 วันก่อนมีน้ำท่วมสูความสูงประมาณ 2 -3เมตร

              ต่อมาได้ร่วมกับจนท. การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอหลังสวน นำโดยสุดาวัลย์  สุขเอมโอช รองผจก.  วิทยา พรหมรักษ์  หัวหน้าแผนกบริการลูกค้า ข้าว 100 กล่อง น้ำ20 โหล โดยมีทหารจาก มทบ.ที่ 44 ค่ายเขตอุดมศักดิ์ จ.ชุมพร จำนวน 4นาย นำเรือท้องแบนออกช่วยเหลือประชาชนริมแม่น้ำสวี
            ทั้งนี้ยังมีพื้นที่ตำบลปากแพรกทั้งหมด 6 หมู่บ้านแต่ยังมีน้ำท่วมสูง 3 หมู่บ้านประกอบด้วย 3,5,6 ทางผู้นำชุมชนได้นำอาหารกล่องและน้ำดื่มเร่งส่งมอบเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแล้ว คาดถ้าฝนไม่ตกเพิ่มก็จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติทุกตำบลของอำเภอสวี จ.ชุมพรใน 1-2 วันนี้

            ส่วนที่วัดแหลมปอ ตำบลสวี ระดับน้ำลดพระสงฆ์กับญาติโยมร่วมกันเก็บกวาดเช็ดถูทำความสะอาดพื้นศาลา กุฏิซึ่งเต็มไปด้วยโคลนโดยมีสิ่งของเครื่องใช้ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก เช่นเดียวกับโรงเรียนวัดแหลมปอเป็นโรงเรียนระดับปฐมศึกษาชั้นปี 1-6 ตั้งอยู่ด้านหลังวัดอาคารเรียน 1-6 ยังมีระดับน้ำประมาณ 20 เซ็นติเมตร 

              ส่วนอาคารเรียนของเด็กอนุบาล 1-3 ซึ่งเป็นอาคารเก่าสร้างขึ้นเมื่อปี 2481 มีอายุกว่า 83 ปี น้ำลดทิ้งไว้เพียงโคลนตมหลังน้ำท่วมครั้งนี้ทำให้อุปกรณ์การเรียนการสอนทั้งหมดได้รับความเสียหาย คณะคุณครูร่วมกับผู้ปกครองและนักเรียน เช็ดถูทำความสะอาดโดยมีรถน้ำของ อบต.สวี จอดรอพร้อมฉีดน้ำล้าง
             ด้านน.ส.พัญชิวา มัชฉิมวงค์  และน.ส.อภิญญา  บุญทองใหม่ ครูผู้สอนชั้น 1-6 เปิดเผยว่า มีมวลน้ำขึ้นสูงอย่างรวดเร็วตั้งแต่วันศุกร์ที่ 12 พ.ย.เวลาประมาณ 09.00 น.และเริ่มท่วมสูงสุดประมาณ 2 เมตร ในวันที่ 13  ทำให้ทั้ง 4 อาคารประกอบด้วย อาคารปฐมวัย อาคารเรียนป.1-3 อาคารเรียน 4-6 และอาคารบวรสำหรับเรียนคอมพิวเตอร์ ทั้งหมดได้รับความเสียหาย เหลือไว้เพียงเอกสารชั้นป.1-3 เพราะอาคารดังกล่าวมีชั้นวางเอกสารด้านบน

              วันเดียวกัน นายสมพร  ปัจฉิมเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร รักษาการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ออกหนังสือเร่งด่วนถึง นายอำเภอเมืองชุมพร นายอำเภอท่าแซะ และ นายอำเภอปะทิวระบุว่า  ยังพบกลุ่มฝนบริเวณพื้นที่อำเภอปะทิว อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร และอำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งอาจจะมีฝนตกหนักบางแห่ง และอาจส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่น้ำไหลหลาก ผ่าน และพื้นที่ลุ่มต่ำริมลำห้วยและลำคลอง 
          ขอให้อำเภอ แจ้งเตือนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ประชาชน ที่อยู่พื้นที่น้ำไหลหลาก และพื้นที่ลุ่มต่ำ ริมลำห้วย และลำคลอง ให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง หากสถานการณ์มีความรุนแรงให้ดำเนินการตามขั้นตอนของแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยให้สามารถช่วยเหลือ ประชาชนในพื้นที่ทันที

               ขณะเดียวกันตั้งแต่เมื่อวันที่ 10-15 พ.ย.64 ได้มีฝนตกหนักในอำเภอปะทิว ครอบคลุม 4 ตำบล  ตำบลสะพลี ตำบลทะเลทรัพย์ ตำบลชุมโค ตำบลบางสน อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร วัดปริมาณน้ำฝนสะสมวันที่ 10-15 ได้ 390 มิลลิเมตร ทำให้เกิดน้ำไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรที่ได้รับความเสียหายท้ัง 4 ตำบลประมาณ 250 หลังคาเรือนประชาชนผู้รับผลกระทบประมาณ 500 คนและเกิดทำท่วมขัง ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย.64 ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ (15 พ.ย.)และยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง ส่งผลให้บ้านเรือนน้ำท่วมขังสิ่งของในบ้านเสียหาย พืชผลทางการเกษตรเสียหายเป็นวงกว้าง ถนนในหมู่บ้านบางแห่งถูกน้ำกัดเซาะเสียหาย รถเล็กผ่านไม่ได้   เบื้องต้นผู้นำท้องถิ่น และชุดอาสาสมัครกู้ชีพกู้ภัยเข้าให้การช่วยเหลือแล้ว.//

ภาพ/ข่าว โดย : ประสิทธิ์ ลีฬหคุณากร จ.ชุมพร