"นายและนางโคมุโระ" เดินทางไปสนามบินฮาเนดะ และขึ้นเครื่องบินโดยสารของสายการบินออล นิปปอน แอร์เวย์ส ไปยังนิวยอร์ก สื่อของญี่ปุ่นรายงานว่าทั้งคู่จอง ที่นั่งชั้นประหยัด แต่ทางสายการบินเปลี่ยนเป็นชั้นธุรกิจให้ ขณะที่ เคอิ ได้นัดเจอกับชายสูงวัยที่เป็นอดีตคู่หมั้นของมารดา เพื่อเจรจาเคลียร์หนี้สินที่ยืมไป 4 ล้านเยน (1.3 ล้านบาท) แม้จะพยายามยุติเรื่องดรามาความไม่โปร่งใสของฝ่ายชาย แต่เรื่องใหม่ที่จองตั๋วเครื่องบินชั้นประหยัดก็ทำให้ชาวญี่ปุ่นอดใจหายไม่ได้
แม้ทั้งคู่จะได้รับการอารักขาอย่างเข้มงวดโดยระบบรักษาความปลอดภัยที่สนามบินในนิวยอร์ก และกำลังตำรวจตอนที่เดินผ่านอาคารผู้โดยสารขาออก ท่ามกลางผู้สื่อข่าวราว 100 คน แต่หลังจากนี้ไปก็จะต้องใช้ชีวิตคู่ร่วมกันแบบสามัญชนที่อะพาร์ตเมน์เช่า เพราะ เคอิ ต้องทำงานที่บริษัทกฎหมาย และ ไม่ว่าจะอะไรจะเกิดขึ้นมาโกะจะไม่มีวันได้รับฐานันดรคืน ด้วยเพราะจารีตและกฎหมายที่เคร่งครัดของญี่ปุ่น สมาชิกพระราชวงศ์ที่เป็นหญิงจะต้องสละฐานันดรเมื่อสมรสกับสามัญชน
มีข่าวลือด้วยว่า มาโกะ จะหางานทำที่นิวยอร์กเพื่อช่วยสามีอีกแรงหนึ่ง เพราะเธอลั่นวาจาเอาไว้แล้วว่า เธอรักเขาและเขาเป็นสิ่งที่ไม่มีอะไรทดแทนได้ ท่ามกลางข้อครหาที่ว่าทั้งคู่จะใช้ชีวิตร่วมกันในเมืองที่ค่าครองชีพแสนแพงนี้ได้อย่างไร เคอิ ได้รับเงินเดือนเท่าไหร่... ไม่กี่วันก่อนสื่อญี่ปุ่นเพิ่งรายงานว่า เคอิ สอบ "เนติฯ" ของเนติบัณฑิตยสภารัฐนิวยอร์กไม่ผ่าน และคาดว่าจะสอบใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์ เพราะคนที่จะประกอบอาชีพทนายความที่รัฐนี้จะต้องสอบเนติผ่าน ทำให้ตอนนี้เขาจึงมีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้พิพากษา
การย้ายไปอยู่นิวยอร์กทำให้ทั้งคู่ถูกขนานนามว่าเป็น "แฮร์รีและเมแกนแห่งญี่ปุ่น" ทั้งคู่ไม่ฟังเสียงทักท้วงใด ๆ ตอนที่ประกาศหมั้นครั้งแรกเมื่อ 4 ปีก่อน ท่ามกลางข่าวกอสซิปเกี่ยวกับมารดาของฝ่ายชายที่เอาเงินจากคู่หมั้นมาใช้จ่าย ส่งเสียลูกชายและไม่ยอมใช้คืน เมื่อทั้งคู่แต่งงานกันเมื่อเดือนที่แล้วก็ยกเลิกพิธีการทั้งหมดเหลือเพียงแค่จดทะเบียนสมรส ทำให้ สาธารณชนตำหนิฝ่ายชายว่าไม่ให้เกียรติฝ่ายหญิง และ "พระบิดา" ที่เป็นถึงมกุฎราชกุมาร หรือ "ว่าที่จักรพรรดิ" องค์ต่อไป