เพิ่ม nation online
ลงในหน้าจอหลักของคุณ
เจ้าหญิงมาโกะ พระธิดาในมกุฎราชกุมารอากิชิโนะและมกุฎราชกุมารีกิโกะ แห่งญี่ปุ่น ทรงทิ้งฐานันดร เพื่อใช้ชีวิตคู่กับชายสามัญชน เคอิ โคมุโระ โดยจดทะเบียนสมรสแล้วที่กรุงโตเกียวในวันนี้ และกลายเป็นข้อครหาในสังคมญี่ปุ่น ที่เป็น "เจ้าหญิง" แต่การแต่งงานกลับเรียบง่ายปราศจากพิธีรีตอง และคาดว่าทั้งคู่จะย้ายไปอยู่นิวยอร์ก เพราะฝ่ายชายเพิ่งจบการศึกษาที่นั่น และเตรียมตัวทำงานที่สำนักงานกฎหมาย
มีภาพที่เจ้าหญิงมาโกะ ก้าวออกจากพระตำหนักอาคาซากะ (Akasaka Estate) โค้งคำนับพระบิดาและพระมารดา ก่อนสวมกอดเจ้าหญิงคาโกะ พระขนิษฐา และขึ้นรถยนต์เพียงลำพังไปยังสถานที่ไม่เปิดเผย ก่อนจะเข้าไปยังสถานที่จัดการแถลงข่าวที่ล็อบบี้ของโรงแรม
ตอนแถลงข่าว เจ้าหญิงบอกว่าได้ตัดสินใจจะสร้างชีวิตที่มีความสุขกับผู้ชาย "ที่ไม่อาจถูกแทนที่ได้" แต่ก็ "เหน็บ" สื่อด้วยว่า รายงานข่าวที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับโคบุโระทำให้ทรงโศกเศร้าอย่างหนัก เครียดและหวาดกลัว จนได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์เมื่อต้นปีว่าเป็นโรค "PTSD" หรือ หรือโรคเครียดหลังเผชิญเหตุการณ์เลวร้าย หลังจากการหมั้นหมายที่ยาวนานถึง 8 ปี ถูกรุมเร้าด้วยเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับเงิน การขุดคุ้ยและรายงานข่าวอันเป็นเท็จเกี่ยวกับโคมุโระ
เจ้าหญิงมาโกะ ซึ่งตามกฎหมายต้องเป็น นางมาโกะ โคมุโระ วัย 30 ปี บอกว่า "ดิฉันเข้าใจดีว่า มีความคิดหลากหลายเกี่ยวกับการแต่งงานของดิฉันกับเคอิ ดิฉันเสียใจอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีปัญหา (กับการแต่งงานของเรา)" และบอกต่อว่า "การแต่งงานของเราเป็นขั้นตอนที่จำเป็นสำหรับเรา เพื่อให้สามารถปกป้องหัวใจของเราได้"
ส่วนเคอิ ที่เผชิญกระแสความไม่พอใจล่าสุด จากการมัดผมด้านหลังในวันสำคัญ ได้กล่าวขออภัย แต่บอกว่า เขารักเจ้าหญิงและจำสนับสนุนเธอไปตลอดการใช้ชีวิตร่วมกัน ... "ผมรักมาโกะ เราต่างมีชีวิตเดียว และผมต้องการใช้มันร่วมกับคนที่ผมรัก ผมรู้สึกเศร้าอย่างมาก ที่มาโกะต้องอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ทั้งร่างกายและจิตใจ เพียงเพราะข้อกล่าวหาที่ไม่จริง" .... ทั้งคู่ไม่ได้ตอบคำถามเพื่อสร้างบรรยากาศที่ง่ายขึ้นสำหรับเจ้าหญิง แต่ก็มีการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรว่า สุขภาพของเจ้าหญิง "ไม่ดีนัก"
ทั้่งคู่มีกำหนดเข้าพิธีแต่งงานตั้งแต่เมื่อ 3 ปีก่อน แต่ต้องเลื่อนออกไปเพราะเรื่องอื้อฉาวที่แม่ของฝ่ายชาย ท่ามกลางคำครหาว่า เขาแต่งงานเพราะเงิน ก่อนที่เขาจะเดินทางไปศึกษาต่อด้านกฎหมายที่นิวยอร์ก และจบการศึกษาจาก Fordham University และได้งานที่สำนักงานกฎหมาย
เขาเพิ่งกลับโตเกียวเมื่อเดือนที่แล้ว ก่อนจะประกาศแผนการแต่งงาน และพาเจ้าหญิงไปอยู่นิวยอร์กด้วย ขณะที่ประชาชนได้รวมตัวประท้วงด้วยความไม่พอใจ พร้อมกับตั้งคำถามว่า เงินที่จะใช้รักษาความปลอดภัยให้ทั้งคู่มาจากไหน และอย่างไรเสียเจตนาของฝ่ายชายก็คือตกถังข้าวสารใช่ไหม และดูอย่างไรก็ไม่ให้เกียรติฝ่ายหญิงที่จัดการแต่งงานโดยไม่มีพิธีการใดๆ