นักท่องเที่ยวแห่เช็คอินท่าเรือปากเมง

           15 พฤศจิกายน 2564 ที่ท่าเทียบเรือปากเมง  ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง ซึ่งเป็นท่าเทียบเรือแห่งใหม่ของจ.ตรัง และท่าเทียบเรือใหม่ล่าสุดฝั่งทะเลอันดามัน และเป็นประตูสู่การท่องเที่ยวทะเลฝั่งอันดามัน ตรัง  – สตูล - กระบี่ - พังงา และภูเก็ต   หรือส้นทางการเดินเรือในลักษณะ "วงแหวนอันดามัน" รองรับการเปิดประเทศของรัฐบาล 
           ซึ่งสามารถเชื่อมโยงการท่องเที่ยวได้ทุกเกาะในฝั่งอันดามัน เช่น เกาะกระดาน  เกาะมุกด์ เกาะแหวน เกาะเชือก เกาะม้า เกาะเหลาเหลียง จ.ตรัง , เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล ,เกาะไหง เกาะลันตา เกาะพีพี  อ่าวนาง จ.กระบี่  ,เขาหลัก จ.พังงา และเกาะภูเก็ต  รวมทั้งเกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย ก็ผ่านเส้นทางเดินเรือฝั่งทะเลอันดามัน ตรัง และสตูล ได้เช่นกัน  

          โดยท่าเทียบเรือปากเมง เป็นการก่อสร้างแทนท่าเทียบเก่าที่มีอายุการใช้งานมากว่า 30 ปี ด้วยงบประมาณก่อสร้างรวมกว่า 144 ล้านบาท  เพื่อการพัฒนาและเพิ่มศักยภาพการท่องเที่ยวฝั่งทะเลอันดามัน พัฒนาเศรษฐกิจกลุ่มจังหวัดอันดามัน  โดยในวันนี้การก่อสร้างดำเนินการได้แล้วเสร็จ   และทางกระทรวงคมนาคมรอการส่งมอบให้แก่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหมเป็นผู้ดูแลบริหารจัดการต่อไป   

             ทั้งนี้การออกแบบลักษณะคล้ายตัวปลากระเบน ส่วนหางเป็นสะพานเชื่อมต่อไปยังท่าเรือ สวยงามเรียบง่ายโล่ง โปร่ง สบาย  สไตล์ Tropical modern เข้ากับสภาพอากาศ และภูมิประเทศ เชื่อมต่อไปจากชายหาดปากเมงที่มีระยะทางยาวหลายกิโลเมตร และสอดรับกลมกลืนกับทัศนียภาพฉากหลังที่มีเขาเม็งตั้งตระหง่านอยู่กลางน้ำ และทอดยาวสลับสูงๆต่ำ บริเวณด้านข้างของท่าเรือ และมนต์เสน่ห์ของหมู่บ้านชาวประมงที่อยู่ใกล้กัน

            โดยชาวบ้านมักนำเรือหางยาวที่แล้วเสร็จจากภารกิจจับสัตว์น้ำในทะเล มาจอดเรียงราวอยู่ชายฝั่งหลังหมู่บ้าน ทำให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมถ่ายภาพอย่างสวยงามเห็นถึงวิถีชีวิตชาวชุมชน    โดยที่ผ่านมานักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการท่องเที่ยวต้องใช้ท่าเรือปากเมงประมาณปีละ 67,000 คน และคาดว่าหลังจากนี้ จะมีนักท่องเที่ยวและผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นถึงประมาณ  90,000 คนต่อปี สามารถสร้างรายได้ให้ปีละไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท   โดยในวันนี้ พบว่ามีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยว ถ่ายภาพเช็คอินจำนวนมาก

             นายสมศักดิ์ เสือบุญทอง  นายกสมาคมการท่องเที่ยวและโรงแรมจังหวัดตรัง     กล่าวว่า ตอนนี้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั้งหมดในจังหวัดตรัง ทั้งโรงแรม ห้องพัก รีสอร์ท เรือทัวร์ เรือหางยาวนำเที่ยว ต่างก็คาดหวังว่า การที่นายกรัฐมนตรีเปิดสะพานท่าเทียบเรือปากเมงแห่งใหม่ จะทำให้สื่อต่างๆนำเสนอภาพ และข่าวออกไปทั่วประเทศ จะทำให้คนทั่วประเทศได้รู้จักจังหวัดตรังมากขึ้น ได้รู้จักท่าเรือปากเมงท่าเรือแห่งใหม่สุดของภาคใต้ฝั่งอันดามัน เชื่อว่าจะเป็นแรงดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าจังหวัดตรังกันมากขึ้นมาท่องเที่ยว จะทำให้บรรยากาศคึกคักขึ้น 

            อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผู้ประกอบการในจ.ตรัง ต้องการมากสุดหลังจากนี้ เมื่อรัฐบาลเปิดประเทศ และเปิดการท่องเที่ยวแล้ว คือ ขอให้รัฐบาลจัดสรรให้ผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพราะที่ผ่านมาผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวทุกภาคส่วนต่างได้รับผลกระทบและเดือดร้อนกันมาก ทั้งหมดเป็นหนี้สิน  ขาดสภาพคล่อง ไม่มีเงินทุน โดยเป็นผลความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์โควิด การปิดแหล่งท่องเที่ยว ปิดจังหวัด ปิดประเทศ  
  
             ทั้งนี้ความเสียหายต่อภาพรวมเศรษฐกิจการท่องเที่ยวไม่สามารถจะประเมินค่าความเสียหายได้ แต่ผู้ประกอบการการท่องเที่ยวทุกรายผลประกอบการเป็นศูนย์ทั้งหมด ทั้งโรงแรม ห้องพัก เนื่องจากไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเลย ทั้งรถ เรือ โรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหาร กระทบทั้งหมดเป็นลูกโซ่   จึงเชื่อว่าการเปิดท่าเทียบเรือแห่งใหม่นี้จะสามารถกระตุ้นการท่องเที่ยวได้

            ด้านนายขอบฟ้า แสนดี อายุ 47 ปี    นักท่องเที่ยว ชาวจ.ตรัง ที่เดินทางมาเยี่ยมชมและถ่ายภาพท่าเรือปากเมงใหม่  กล่าวว่า ดีใจที่มีจังหวัดตรังมีท่าเรือแห่งใหม่ สวยงามในระดับหนึ่ง เชื่อว่าหลังจากนี้จะมีนักท่องเที่ยวรู้จักจังหวัดตรัง และเดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดตรังมากขึ้น
           แต่สิ่งที่อยากเห็นมากที่สุด  หากรัฐบาลเห็นศักยภาพของจ.ตรัง สามารถรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้  อยากให้รัฐบาลส่งเสริมให้เกิดรีสอร์ท ห้องพัก เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้เพียงพอ และโดยเฉพาะโรงแรม รีสอร์ทสวยๆ ใกล้ชายหาด ให้เหมือนกับจังหวัดอื่นๆ  ไม่ต้องระดับ 5 ดาว  แต่มีให้มากพอ เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่นักท่องเที่ยว จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวจ.ตรังได้

ภาพ/ข่าว โดย : คนิตา สีตอง จ.ตรัง