สัตว์เศรษฐกิจใหม่ เลี้ยงหอยเชอรี่สีทองโกยรายได้วันละพัน

13 พฤศจิกายน 2564 ที่บ้านเลขที่ 143 หมู่ที่ 3 ต.นาข้าวเสีย อ.นาโยง จ.ตรัง ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส ดวงพร(ขวัญ) สันติเพชร อายุ 38 ปีอาชีพรับจ้างตัดเย็บเสื้อผ้า ได้ใช้พื้นที่ว่างข้างบ้าน ทำบ่อพลาสติกขึ้นมาหลายบ่อ เพื่อเลี้ยงหอยเชอรี่สีทองหรือหอยโข่งเหลืองจำนวนหลายพันตัว แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อยอดการสั่งซื้อจากลูกค้าทั้งในและต่างจังหวัด เนื่องจากใน จ.ตรัง คุณขวัญเป็นเกษตรกรรายแรกที่เพาะเลี้ยงหอยเชอรี่สีทองขายทางโลกออนไลน์ ราคาตั้งแต่คู่ละ 30-100 บาทแล้วแต่ขนาด
 โดยคุณขวัญเห็นเพื่อนเลี้ยงไว้ดูเล่นในตู้ปลา จึงเกิดความสนใจ เพื่อนของเธอจึงสั่งซื้อมาให้จากทางภาคอีสานในราคาตัวละ 50 บาท จำนวน 50 ตัว และทำการศึกษาวิธีการเลี้ยงอย่างจริงจัง จนกระทั่งหอยเชอรี่สีทองวางไข่  เป็นสีชมพูอ่อน ๆ คล้ายไข่ของหอยเชอรี่ทั่วไป ทิ้งไว้ประมาณ 45-50 วันก็เริ่มจับขายได้แล้ว สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 1,000 บาทต่อวันเลยทีเดียว

               ซึ่งหอยเชอรี่สีทองนับว่าเป็นสัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่ที่ลี้ยงง่ายกว่าหอยโข่งหรือหอยขม อัตราการตายน้อย กินพืชผักที่อวบน้ำ เช่น ผักบุ้ง ใบหม่อน ตะไคร้น้ำ แหน ผักตบชวา  ต้นข้าว เศษซากสัตว์ขนาดเล็กและอื่นๆ   โตเร็ว เนื้อกรุบๆ นุ่ม หวานมัน ไม่เหนียว ไม่มีกลิ่นคาว รสชาติคล้ายหมึก และได้ชื่อว่าเป็นหอยเป่าฮื้อน้ำจืด สามารถนำไปทำส้มตำ ต้ม ผัด แกง ทอดหรือลวกจิ้มได้ โดยใช้เวลาปรุงสุกแค่ 1นาที ก่อนใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มเนื้อออกมาได้อย่างง่ายดาย
               แถมส่วนหัวยังเชื่อว่ามีสรรพคุณทางยา ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ มีโปรตีนสูง อุดมไปด้วยวิตามินหลายชนิด มีธาตุเหล็ก ไอโอดีนและแคลเซียม แต่ไม่ควรบริโภคดิบๆ ส่วนเปลือกหอยยังนำมาทำปุ๋ยบำรุงดินและต้นไม้ให้สวยงามได้อีกทางหนึ่งด้วย

                 นอกจากนี้ คุณขวัญยังทดลองเลี้ยงหอยเชอรี่เปลือกสีน้ำตาล-ดำ หอยโข่ง และหอยขมข้าวเพื่อจำหน่ายอีกทางหนึ่งด้วย  โดยที่ จ.ตรังเริ่มมีเกษตรกรหันมาสนใจสั่งซื้อหอยเชอรี่สีทองเพื่อสร้างรายได้เสริมกันมากขึ้น  จนพันธุ์หอยเชอรี่สีทองโตไม่ทันต่อความต้องการของลูกค้า และต้องมีการสั่งจองไว้ก่อนล่วงหน้า

                ด้าน น.ส ดวงพร สันติเพชร(ขวัญ) เจ้าของบ่อเพาะเลี้ยงหอยเชอรี่สีทองกล่าวว่า เริ่มขายหอยเชอร์รี่สีทองได้ตั้งแต่มีอายุ 1-4 เดือนราคาคู่ละ 30-100 บาท ผลตอบรับดีมากจนผลิตไม่ทัน รสชาติเหมือนหมึก กรอบ หวาน ไม่คาว ซึ่งในจ.ตรังยังไม่มีใครเลี้ยงเป็นอาชีพหลักแต่มีคนสนใจมากขึ้น ซึ่งวิธีการเลี้ยงไม่ยุ่งยาก กินพืชผัก เช่น ใบตำลึงใบหม่อน โดยสร้างรายได้วันละไม่ต่ำกว่า 1,000 บาทเลยทีเดียว ส่วนใครสนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 098-7363426 หรือที่ FB ชื่อดวงพร สันติเพช

ภาพ/ข่าว โดย : ถนอมศักดิ์ หนูนุ่ม จ.ตรัง