svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

มท.2 ยันภูเก็ตมีน้ำประปารองรับการเปิดประเทศหน้าแล้ง

14 พฤศจิกายน 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ภูเก็ต - มท.2 ติดตามการบริหารจัดการน้ำภูเก็ต ยืนยันมีน้ำประปาเพียงพอรองรับการเปิดประเทศ รับ นทท.ต่างชาติ ตลอดจนหน้าแล้งที่จะถึงนี้ ไม่มีปัญหาแน่นอน

14 พฤศจิกายน 2564 นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นำคณะลงพื้นที่ตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยเข้ารับฟังบรรยายสรุปการบริหารจัดการน้ำของสำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค สาขาภูเก็ต และระบบการผลิตน้ำประปา เพื่อเตรียมความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามามากขึ้น ภายหลังจากมีการประเทศรับนักท่องเที่ยว โอกาสนี้ยังได้ลงพื้นที่ดูศักยภาพของโรงกรองน้ำประปา และปริมาณน้ำในอ่างเก็บบางวาด ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต โดยมีนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายสมบูรณ์ สุนันทพงศ์ศักดิ์ ผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ และบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำของจังหวัดภูเก็ต ตลอดจนแผนงานเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดประเทศ

มท.2 ยันภูเก็ตมีน้ำประปารองรับการเปิดประเทศหน้าแล้ง

 

ทั้งนี้การประปาส่วนภูมิภาคจังหวัดภูเก็ต ได้รายงานสถานการณ์ความต้องการใช้น้ำและกำลังการผลิตในภูเก็ต ว่า จังหวัดภูเก็ตมีผู้ใช้น้ำจำนวนกว่า 66,000 ราย มีกำลังการผลิตทั้งของการประปาส่วนภูมิภาคและเอกชน รวมวันละ 132,000 ลบ.ม.โดยมีแหล่งน้ำดิบจากอ่างเก็บน้ำของกรมชลประทาน 3 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำบางวาด อ.กะทู้ อ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ อ.ถลาง และอ่างเก็บน้ำคลองกระทะ อ.เมืองภูเก็ต รวมไปถึงแหล่งน้ำธรรมชาติ และขุมน้ำต่างๆ

มท.2 ยันภูเก็ตมีน้ำประปารองรับการเปิดประเทศหน้าแล้ง

การใช้น้ำประปาในช่วงปี 2563 ต่อเนื่องถึงปี 2564 ลดลงจากปี 2562 เหตุจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามา แต่หลังจากเปิดโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และการเปิดประเทศรักชาวต่างชาติโดยไม่ต้องกักตัว ทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาภูเก็ตมากขึ้น กำลังการผลิตและแหล่งน้ำดิบที่มีอยู่ในขณะนี้เพียงพอต่อความต้องการอย่างแน่นอน และในช่วงหน้าแล้งปีนี้ ภูเก็ตจะไม่ประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำอย่างแน่นอน เพราะกำลังผลิตมีเพียงพอและแหล่งน้ำดิบในอ่างเก็บน้ำที่จะนำมาใช้ในช่วงหน้าแล้งมีปริมาณเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ทั้ง 3 อ่างเก็บน้ำ โดยมีปริมาณน้ำ 21 ล้าน ลบ.ม. นอกจากนี้ยังได้เตรียมวางแผนรองรับการใช้น้ำในระยะยาวของภูเก็ต ทั้งการเติบโตด้านการท่องเที่ยวและความต้องการของประชาชนชาวภูเก็ต ด้วยการนำน้ำประปามาจากจังหวัดพังงา โดยเป็นการสร้างโครงข่ายการใช้น้ำร่วมกัน มีการส่งต่อมายังภูเก็ตเพื่อให้บริการในส่วนหัวเกาะและตอนกลางของเกาะ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการของบประมาณการลงทุน จำนวน 2,500 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำในภูเก็ตได้อย่างยั่งยืน
มท.2 ยันภูเก็ตมีน้ำประปารองรับการเปิดประเทศหน้าแล้ง มท.2 ยันภูเก็ตมีน้ำประปารองรับการเปิดประเทศหน้าแล้ง

นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวภายหลังรับฟังบรรยายสรุป และดูปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำบางวาด ว่า ก่อนหน้านี้ในช่วงที่รับตำแหน่งรัฐมนตรีฯ ใหม่ๆ เคยลงมาในพื้นที่เพื่อติดตามปัญหาขาดแคลนน้ำของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งค่อยข้างใจหาย เพราะในอ่างไม่มีน้ำเลย แต่มาครั้งนี้เห็นแล้วชื่นใจ เนื่องจากพบว่าปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเต็มทั้ง 3 แห่ง ที่ผ่านมาได้มีการหารือเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำกับทางจังหวัดภูเก็ต และการประปาส่วนภูมิภาคมาโดยตลอด เนื่องจากในช่วงหน้าฝนจะมีปริมาณน้ำค่อนข้างเยอะแต่ส่วนใหญ่จะไหลลงทะเลหมด โดยจะทำอย่างไรที่จะกักเก็บน้ำดังกล่าวมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

มท.2 ยันภูเก็ตมีน้ำประปารองรับการเปิดประเทศหน้าแล้ง

“จากการบูรณาการร่วมกันของจังหวัดและการประปา ทำให้ขณะนี้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำทั้ง 3 แห่ง ที่มีรวมกันประมาณ 22 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นตัวเลขที่น่าชื่นใจ ฉะนั้นแม้จะใช้น้ำปีหนึ่งประมาณ 36 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่หากสามารถนำจากลำคลองต่างๆ มาใช้ในช่วงหน้าฝน ส่วนน้ำในอ่างเก็บน้ำนำมาใช้เมื่อจำเป็นหรือในช่วงหน้าแล้ง มีช่วงระยะเวลาประมาณ 4 เดือน คือ กุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคม ก็จะทำให้มีปริมาณเพียงพอดังนั้นเมื่อเปิดประเทศ เชื่อมั่นว่าภูเก็ตจะมีผู้คนเดินทางมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งจากการรายงานสถานการณ์น้ำและแผนงานบริหารจัดการ มั่นใจว่าในช่วงหน้าแล้งนี้การบริการของการประปาจะไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน”

มท.2 ยันภูเก็ตมีน้ำประปารองรับการเปิดประเทศหน้าแล้ง มท.2 ยันภูเก็ตมีน้ำประปารองรับการเปิดประเทศหน้าแล้ง

นายทรงศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนของแผนบริหารจัดการน้ำในระยะยาว มีแผนที่เป็นโครงข่ายการบริการน้ำเชื่อมโยงในหลายจังหวัด ทั้งจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดพังงา โดยได้เสนอของบประมาณ 2,500 ล้านบาท ในปี 2566 ไว้แล้ว เพื่อทำโครงการนำน้ำจากจังหวัดพังงามายังภูเก็ต จึงขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลได้ให้ความสำคัญในเรื่องของการบริหารจัดการน้ำเป็นสำคัญ จึงเชื่อมั่นในการดูแลและการจัดสรรงบประมาณมาขับเคลื่อนการเติบโตทุกภาคส่วนโดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว


ภาพ/ข่าว โดย : สาลินี ปราบ จ.ภูเก็ต

logoline