กลัวที่ไหน! คณะไม่เอาระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ลั่นเดินหน้าปฏิรูปสถาบันฯ

     วันนี้ (13 พ.ย.) ที่ The Connecion Seminar Center กลุ่มไม่เอาระบอบสมบูรณาสิทธิราชย์ นำโดย "รุ้ง" ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล , ธัชพงศ์ แกดำ , กตัญญู หมื่นคำเรือง  , กรกช แสงเย็นพันธ์ , ธีรัตม์ พณิชอุดมพัชร์ , ตัวแทนกลุ่มศาลายาเพื่อประชาธิปไตย เดินทางมาจัดแถลงข่าวและอ่านแถลงการณ์เกี่ยวกับการต้านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีล้มล้างการปกครอง

     โดยแถลงการณ์ส่วนหนึ่ง ระบุว่า "พวกเราขอยืนยันอย่างหนักแน่นว่า กระบวนพิจารณาคดีดังกล่าวของศาลไม่อาจยอมรับได้ เพราะขาดซึ่งความเป็นธรรมอย่างยิ่ง ทั้งนี้กฎหมายได้ระบุให้กระบวนการพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญนั้น ใช้ระบบไต่สวน ซึ่งเปิดโอกาสให้ศาลมีบทบาทในการแสวงหาข้อเท็จจริงเข้าสู่กระบวนการพิจารณา เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม โดยแม้ในกระบวนการพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญจะไม่ได้กำหนดให้ศาลต้องเปิดเผยพยานหลักฐานที่ศาลสามารถรวบรวมได้ให้คู่ความทั้งสองฝ่ายทราบเพื่อยืนยันหรือโต้แย้ง แต่กระนั้นก็ดีในระบบการวินิจฉัยคดีด้วยการไต่สวน ย่อมมีหลักการสำคัญประการหนึ่ง

     ได้แก่ การมีสรุปข้อเท็จจริงในสายตา ของศาลให้คู่กรณีทราบ เพื่อโต้แย้งก่อนการตัดสินคดี อันปรากฏในศาลที่ใช้ระบบไต่สวนทั้งหลาย ทั้งนี้เพื่อให้ลูกความทั้งสองฝ่ายสามารถเข้าถึงพยานหลักฐานที่ศาลรวบรวม และสามารถโต้แย้งพยานหลักฐานดังกล่าวได้ 

     อันจะเป็นการทำให้เกิดความบริสุทธิ์ยุติธรรมแก่การพิจารณาคดี ทั้งนี้ในกระบวนการพิจารณาคดีที่เกิดขึ้นศาลไม่ได้เปิดโอกาสให้มีการไต่สวน แม้จะมีการร้องขอแล้วก็ตาม พวกเราจึงไม่อาจทราบถึงพยานหลักฐานที่

     ศาลรวบรวมได้ และไม่มีโอกาสในการยืนยันหรือหักล้างข้อเท็จจริงที่ศาลมีอยู่ พวกเราจึงขอยืนยันว่า คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าว ไม่อาจยอมรับได้เพราะขาดซึ่งความเป็นธรรมอย่างยิ่งด้วยกระบวน พิจารณาคดี"

     ทั้งนี้ ทางกลุ่มฯ ได้นัดหมายการชุมนุมในวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ย. 64 เวลา 15:00 น. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เดินขบวนไปที่สนามหลวง เพื่อประกาศเจตจำนง ยืนยันว่า การปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ 10 ข้อ มิได้เป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 

     "รุ้ง ปนัสยา" สิทธิจิรวัฒนกุล กล่าวว่า คำวินิจฉัยของศาล รธน. ศาลไม่ได้พูดว่าเราล้มล้างการปกครอง แต่พูดว่าอาจจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครอง  ดังที่เรายืนยันไปในแถลงการณ์ว่าข้อเรียกร้องเพื่อการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ยืนยันว่าเป็นการปฏิรูป หากจะมีข้อกล่าวหาเพิ่มเติมนั่นคือเครื่องมือทางการเมือง หากมีการดำเนินคดีก็ให้ใช้ความจริงสู้กันไป ซึ่งเรายืนยันในทุกครั้งว่าไม่ใช่ ตนมีความกังวลอยู่บ้าง เพราะไม่รู้ว่ารัฐนี้จะใช้เครื่องมืออะไรกับประชาชนได้อีก หรือจะมีอะไรทำร้ายประชาชนได้อีก 

     "คำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญเป็นการขัดต่อกฎหมายเสียเอง เป็นตรรกะเสมือนว่าให้ประเทศเป็นสมบูรณาญาสิทธิราชย์ จึงถือว่าคำสั่งนี้ไม่ชอบธรรม และไม่อาจยอมรับได้  ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเขาจะปิดทางมากเท่าไหร่ จนกว่าเกิดปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ จะสำเร็จลง" น.ส. ปนัสยา กล่าว

     ด้าน ปอ กรกช แสงเย็นพันธ์ ยืนยันว่า สิ่งที่ ศาลรัฐธรรมนูญ ทำคือการยึดอำนาจจากประชาชนไปสู่ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ที่มีการเลือกตั้ง พวกเรายืนยันว่สเป็นหน้าที่ของประชาชนในการปกป้องระบอบประชาธิปไตย สำหรับรูปแบบการเคลื่อนไหวของเรายังเป็นการเคลื่อนไหวสันติวิธี ปราศจากอาวุธ ตนเชื่อว่าการต่อสู้ตั้งแต่ปี 2563 เป็นการต่อสู้เพื่อปฏิรูปเช่นเดิม 

     ธัชพงศ์ แกดำ กล่าวว่า การชุมนุมที่ผ่านมาเราใช้สิทธิประชาชน หากมีการยกระดับหรือไม่ ประเด็นคือพวกเราไม่เอาระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ส่วนสถานการณ์วันพรุ่งนี้ (14 พ.ย.) ความรุนแรงจะเกิดขึ้นหรือไม่ หากรัฐ หรือ ตำรวจ คฝ. ก็จะขึ้นอยู่กับรัฐว่าจะให้สิทธิประชาชนในการชุมนุมหรือไม่ ตนคิดว่าเป็นวาระสุดท้ายที่ประชาชนต้องออกมา ไม่งั้นจะจมอยู่กับความทุกข์อยู่แบบนี้เรื่อย ๆ