ทหารโรยเชือกช่วยชีวิต 2 ชีวิตติดอยู่ในบ้าน

12 พฤศจิกายน 2564  ตำรวจ สภ.ทุ่งตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ว่าได้รับแจ้งว่า ใน หลายตำบล ได้เกิดน้ำป่าไหลทะลักเข้าสู่บ้านด้วยความเร็วและแรงมาก ระดับน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ประสาน จนท.ปกครองพร้อมหน่วยกู้ภัยทุ่งตะโก เข้าไปที่เกิดเหตุ

จนท.พยายามจะเข้าไป ที่ หมู่ที่ 1 ต.ช่องไม้แก้ว อ.ทุ่งตะโก แต่เมื่อเดินทางไปถึงทางเข้าวัดมุจลินทร์ หมู่ที่ 1 ต.ทุ่งตะไคร พบมีระดับน้ำป่า กำลังไหลทะลักเข้าสู่หมู่บ้าน ระดับน้ำสูงรวดเร็ว ทำให้ ไม่สามารถฝ่าสายน้ำเข้าไปยัง ต.ช่องไม้แก้ว ต้องเปลี่ยนเส้นทางและใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อ เข้าไป ให้การช่วยเหลือ นางสุภาพร โขมพัตร์ อายุ 41 ปี อาชีพ ทำสวนทุเรียน อาศัยกับลูกสาว อายุ 12 ปี เล่าว่าในช่วงเวลา 02.00 น. ได้เกิดน้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้าน รอบๆ บ้าน ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร ภายในบ้านมีรถยนต์กะบะโฟววิล แต่ไม่กล้าขับฝ่าน้ำออกมา จึงต้องขอความช่วยเหลือจาก ตำรวจ จนมี ปลัดอำเภอ จนท อส.และ หน่วยกู้ภัยทุ่งตะโก เข้าไปช่วยนำออกมาไว้ที่ ศูนย์หมู่บ้าน พบมีชาวบ้านอีกหลายครัวเรือนที่ต้องอพยพหนีน้ำป่าออกมา แต่ขาดอาหารการกิน นายสมพร ปัจฉิมเพชร รอง ผวจ.ชุมพร รักษาราชการ ผวจ.ชุมพร นำความช่วยเหลือเข้าไปอย่างเร่งด่วน ในขณะที่ ฝนยังคงตกหนักในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง หลังจากที่เกิดพายุฝนอย่างหนักในช่วงที่ 4 วันที่ผ่านมา

นอกจากนั้นบนถนนสายเอเชีย 41 ช่องทางขาขึ้นกทมตั้งแต่อำเภอหลังสวนไปถึงอำเภอทุ่งตะโกและอำเภอสวีน้ำป่าได้ไหลท่วมผิวการจราจรระดับความสูง 30 cm ถึง 50 cm ทำให้รถเล็กผ่านด้วยความยากลำบากและคาดว่าในช่วงบ่ายรถเล็กจะไม่สามารถผ่านได้ ในพื้นที่ของสามอำเภอตอนใต้ของจังหวัดชุมพรกำลังตกอยู่ในสภาวะน้ำป่าจากภูเขาด้านซ้ายมือกำลังไหลลงสู่ทะเลด้านขวามือทั้งพื้นที่ 3 อำเภอทำให้เกิดน้ำป่าท่วมเป็นบริเวณกว้างของพื้นที่ 3 อำเภอได้แก่อำเภอทุ่งตะโกอำเภอหลังสวนอำเภอละแมสร้างความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชนนับหมื่นคน ในขณะที่หน่วยงานระดับจังหวัดได้เดินทางไปให้การต้อนรับผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรในพื้นที่นอกจังหวัดชุมพรทำให้จนถึงเวลานี้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนเต็มไปด้วยความล่าช้า

โดยเมื่อเวลา 10:00 น ที่หมู่ที่ 3 ตำบลช่องไม้แก้วอำเภอทุ่งตะโกจังหวัดชุมพรหน่วยกู้ภัยสายชลหลังสวนได้รับคำร้องขอให้เดินทางเข้าไปช่วยเหลือหญิงสาวที่กำลังตั้งครรภ์ใกล้คลอดซึ่ง ซึ่งมีบ้านอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 3 และได้เกิดน้ำป่าไหลท่วมในบริเวณบ้าน น้ำสูงมากกว่า 50 เซนติเมตร ทำให้ไม่สามารถที่จะเดินทางออกมา เพื่อที่จะเดินทางไปยังโรงพยาบาลได้ หน่วยกู้ภัยสายชลหลังสวนได้พยายามนำรถกระบะโฟวิลยกสูงบรรทุกเรือท้องแบนเพื่อเดินทางเข้าไปให้ความช่วยเหลือแต่เข้าไปได้เพียงครึ่งทางระดับน้ำสูงมากจึงต้องนำ เรือท้องแบนขนาดเล็กเข้าไปบรรทุก แต่ยังไม่สามารถนำผู้ป่วยออกมาได้ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมงขณะนี้กำลังรอประสานงานหน่วยงานอื่นที่มีอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือที่ดีกว่าเพื่อเข้าไปทำการช่วยเหลือต่อไป

นายจเร เนื้อแก้ว อายุ 53 ปี อาศัยอยู่ที่ ม 2 ต.ช่องไม้แก้ว อ.ทุ่งตะโก อาชีพทำสวนทุเรียนน้ำป่ากล่าวว่าน้ำป่าเริ่มไหลทะลักลงสู่บ้านเรือน ตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 03:00 น ในช่วงเช้ามืดของวันนี้ระดับน้ำได้เข้าท่วมพื้นที่ในหมู่บ้านแทบทั้งหมู่บ้าน บางบ้านตื่นขึ้นมาน้ำก็ถึงจุดที่กำลังนอนหลับอยู่ทำให้ชาวบ้านในหมู่บ้านไม่สามารถที่จะเดินทางออกสู่ด้านนอกได้เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาในรอบ 10 ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ทำให้บ้านเรือนชาวบ้านได้รับความเสียหายทั้งด้านทรัพย์สินที่อยู่ภายในบ้านโดยเฉพาะถ้าเป็นบ้านชั้นเดียว จะได้รับความเสียหายทางด้านทรัพย์สินภายในบ้าน ในส่วนของเลือกสวนไร่นาหรือสวนผลไม้ที่สวนทุเรียนต้องรอให้น้ำลดก่อนจึงจะ ตรวจสอบได้ว่ามีความเสียหายอย่างไรในส่วนของอาหารการกินนั้นชาวบ้านสามารถประทังชีวิตอยู่ได้ในเวลาประมาณ 1 อาทิตย์ส่วนความช่วยเหลือของทางราชการอยากจะให้ช่วยเหลือไปยังบ้านที่ลำบากมากกว่านี้

ด้านนายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรรักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร พร้อมด้วยนายประกาศิตพรประสิทธิ์ นายอำเภอหลังสวนและเจ้าหน้าที่ทหารจาก ป5พัน25ได้นำรถยีเอ็มซีจำนวน 3 ทหารจากป 5 พัน 25 ชุมพรพร้อมด้วยกำลัง นำถุงยางที่ไปมอบให้ชาวบ้านถึงบ้านพบว่าชาวบ้านจำนวนมากหลายร้อยครัวเรือนนับพันคนที่ไม่สามารถเดินทางออกสู่โลกภายนอกได้ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดของวันนี้ ระดับน้ำของแต่ละบ้านมีความสูงมากกว่า 50 cm จนถึง 80 cm หน่วยทหารจาก ป5พัน25 จึงได้มอบถุงยังชีพพร้อมขอเบอร์โทรศัพท์และแจ้งว่าถ้ามีความต้องการการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนให้โทรศัพท์แจ้งหน่วยทหาร ป5พัน25 ชุมพรซึ่งนำกำลังมาตรึงอยู่ในพื้นที่ของอำเภอหลังสวนตั้งแต่วันนี้จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย สำหรับสถานการณ์พายุฝนในพื้นที่โซนใต้ของจังหวัดชุมพรอำเภอทุ่งตะโกและอำเภอหลังสวนในขณะนี้ท้องฟ้ายังคงมืดครึ้มฝนรถกำลังลงมาเล็กน้อยแต่ยังคงตกกันอย่างยังคงไหลหลากจากภูเขาลงลงสู่พื้นราบอยู่ตลอดเวลา

ส่วนที่บ้านปากปิ หมู่ที่ 8 ตำบลวังตะกออำเภอหลังสวนจังหวัดชุมพรนำโดย พ.ท. ประสงค์ โอวาทฬารพรผู้บังคับกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 25 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 5 ได้รับการขอร้องความช่วยเหลือจากชาวบ้านว่า ได้เกิดน้ำป่าไหลหลาก จนทำให้บ้านพังเสียหายทั้งหลังและมีผู้ติดอยู่ในบ้านจำนวน 2 คนเป็นชายวัยรุ่น สองคนจึงได้สั่งการให้กำลังทหารจากป 5พัน25 เดินทางไปยังที่เกิดเหตุพบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านไม่มีเลขที่อยู่ฝั่งตรงข้ามคลองปิ ถูกน้ำป่าซัดจนบ้านพังเสียหายทั้งหลัง แต่มีชายวัยรุ่นทั้งสองคนติดอยู่ภายในบ้านทหารจากป 5 พัน 25 จึงได้ใช้เชือกโรยตัวข้ามคลองปี่ความกว้างประมาณ 15 เมตรแล้วไต่เชือกเข้าไปนำชายวัยรุ่นทั้งสองคน โดยพยุงให้ไต่เชือกข้ามมายังจุดที่ปลอดภัย นายกนายกเทศบาลตำบลวังตะกอนายสมบัติดึงสุวรรณ ได้นำเรือท้องแบนมาช่วยเหลือในการโรยเชือก จนสามารถช่วยเหลือคนทั้งสองเป็นผลสำเร็จ ท่ามกลางการลุ้นระทึกของชาวบ้านที่มามุงดูเหตุการณ์ภายหลัง ช่วยคนทั้งสองออกมาได้แล้วกระแสน้ำป่าได้พัดเอาบ้านของคนทั้งสองลงสู่ลำคลองปินับว่ารอดตายได้อย่างหวุดหวิด

นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรรักษาราชการผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรเปิดเผยว่า ได้เกิดพายุหมุนพัดบ้านพังในพื้นที่หลายหมู่ บ้านต.ท่ายาง อ.เมือง จ.ชุมพร ทำให้มีบ้านเรือนชาวบ้านพังเสียหาย 11 หลัง นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร รอง ผวจ.ชุมพร รักษาราชการแทน ผวจ.ชุมพร ได้สั่งการให้ นางสาวสุนารี บุญชุบ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จังหวัดชุมพร ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือแล้ว ทาง ด้านสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัดชุมพรในขณะนี้ยังคงมีน้ำป่าไหลหลากลงมาจากบ้านภูเขาลงสู่พื้นราบอย่างต่อเนื่องและฝนยังไม่มีท่าทีว่าจะหยุดตกจึงได้จึงกำลังทุกหน่วยงานเพื่อให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะการอพยพชาวบ้านไปยังที่ปลอดภัยและเตรียมการเรื่องอาหารการกินยารักษาโรคไว้แล้ว

ภาพ/ข่าว โดย : ประสิทธิ์ ลีฬหคุณากร จ. ชุมพร