ร้อง "สุริยะ"เพิกถอนอาชญาบัตรพิเศษเหมืองทองคำ

กลุ่มประชาสังคมปฏิรูปทรัพยากรและทองคำ หลังจากยื่น 4 หน่วยงาน เพื่อคัดค้านเหมืองแร่ทองคำ คือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการต่างประเทศ นายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ล่าสุด เตรียมเดินทางเข้าเรียกร้อง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ขอให้ดำเนินการเพิกถอนอาชญาบัตรพิเศษ สำรวจและทำเหมืองแร่ทองคำที่นายสุริยะ ได้อนุญาตไว้

เนื่องจากเป็นการออกโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และขัดต่อกฎหมาย อ้างถึง อาชญาบัตรพิเศษท่ีอนุญาตเมื่อ พ.ศ 2549 จำนวน 50 แปลงพื้นที่ราว 5 แสนไร่ อาชญาบัตรพิเศษ ท่ีอนุญาตเมื่อ พ.ศ. 2563 จานวน 44 แปลง พื้นท่ีราว 4 แสนไร่

นางอารมย์ คาจริง ตัวแทนกลุ่มประชาสังคมปฏิรูปทรัพยากรและทองคำ เปิดเผยว่า ประชาชน 5 จังหวัด คือพิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ลพบุรี สระบุรี ผู้ซึ่งได้รับความเดือดร้อนจากการที่ บริษัท อัครารีซอร์สเซส จำกัด ( มหาชน ) และบริษัทย่อย ได้ดำเนินการยื่นคำขออาชญาบัตรพิเศษสำรวจและทำเหมืองแร่ทองคำ ครอบคลุมลงไป 5 จังหวัด ส่งผลให้บริษัทอัคราฯ อ้างสิทธ์ิที่เคยได้รับจากกระทรวงอุตสาหกรรม นำสิทธ์ิในที่ดินระบุเข้าตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศโดยเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ไปนานแล้ว

ในขณะที่ประชาชนไม่เคยรับรู้และไม่เคยอนุญาต เนื่องจากที่ดินยังเป็นสิทธิการอยู่อาศัยทำกินของประชาชนผู้ซึ่งมีสิทธ์ิตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งจากพยานหลักฐานพบว่า ในช่วงปี พ.ศ. 2549 ขณะท่ีนายสุริยะ ปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในรัฐบาล นายทักษิณ ชินวัตร ได้ใช้อำนาจหน้าท่ีอนุญาตอาชญาบัตรพิเศษให้กับบริษัท อัครารีซอร์สเซส จากัด ( มหาชน) โดยอนุญาตในวันเดียวมากถึง 50 แปลง เป็นพื้นที่ราว 5 แสนไร่ ครอบคลุมลงไปบนที่ดินอยู่อาศัยทากินของประชาชนเป็นจานวนมากใน จังหวัดพิจิตร และพิษณุโลก

ต่อมาขณะท่ีนายสุริยะ ปฏิบัติหน้าท่ีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม อีกคร้ัง ได้ใช้อำนาจหน้าท่ีอนุญาตอาชญาบัตรพิเศษ ให้กับบริษัท อัคราฯ และบริษัทย่อย ในจังหวัดเพชรบูรณ์ และจังหวัดจันทบุรี เป็นพื้นท่ีรวมกันแล้วราวกว่า 4 แสนไร่ โดยไม่ฟังเสียงคัดค้านของประชาชน เป็นจำนวนมากที่ได้เคยยื่นคัดค้านมายังท่านอยู่หลายคร้ัง

เนื่องจากการอนุญาตอาชญาบัตรพิเศษดังกล่าว เป็นการให้สิทธ์ิกับบริษัทอัคราฯ หรือ บริษัทย่อย ให้ได้สิทธ์ิตามกฎหมายพระราชบัญญัติ แร่ เหนือท่ีดินอยู่อาศัยทำกินของประชาชนด้วยเหตุน้ี การกระทำดังกล่าวของท่านจึงเป็นการละเมิดต่อสิทธิของประชาชน ผู้ซึ่งมีสิทธิ์อยู่อาศัยทำกินบนแผ่นดินของประเทศไทยโดยสงบสุขร่มเย็นตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

การยื่นคำขอ และการอนุญาตอาชญาบัตรพิเศษ สำรวจและทำเหมืองแร่ทองคำครอบคลุมลง ไปบนที่ดินอยู่อาศัยทากินของประชาชน ด้วยผลทางกฎหมายหลายฉบับประกอบกันจะส่งผลทำให้ ประชาชนจำนวนมากต้องขาดสิทธิ์ในท่ีดิน โดยกรณีดังกล่าวข้าพเจ้าและคณะได้เคยยื่นเรื่องมายังท่าน เพื่อให้ทราบถึงประเด็นปัญหาข้อเท็จจริงท่ียังอยู่ระหว่างการตรวจสอบของ คณะกรรมการ ป.ป.ช. และผู้ตรวจการแผ่นดิน

จากกรณีเจ้าหน้าท่ีของรัฐดำเนินการในหลายกรณีเพื่อให้ประชาชนขาดสิทธิ์ในท่ีดินอันเป็นพื้นท่ีซ้ำซ้อนกับ บริษัท อัคราฯ และบริษัทย่อยได้เคยยื่นคำขออาชญาบัตรครอบคลุมไว้ จากน้ันมีกระบวนการของเจ้าหน้าที่ ทำให้ประชาชนขาดสิทธ์ิในที่ดินเพื่อให้กลับไปเป็นของรัฐ ในหลาย ๆ กรณี อาจเป็นไปเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัท อัคราฯ หรือไม่ ในการได้สิทธิ์ท่ีดินจากรัฐตามกฎหมายพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2560 มาตรา 54 กรณีถ้าหากท่ีดินเป็นของรัฐ บริษัทเอกชนก็จะสามารถยื่นขอใช้ประโยชน์ในที่ดินจากรัฐ ในการทำเหมืองแร่ทองคำได้เลย

กรณีเช่นว่าน้ีท่านทราบว่าอยู่ระหว่างการสอบสวนของ คณะกรรมการ ป.ป.ช. แต่นายสุริยะ กลับไม่ฟังเสียงคัดค้านของประชาชนโดยเร่งรีบอนุญาตอาชญาบัตรพิเศษ ให้กับบริษัท อัคราฯ และบริษัทย่อย ให้ได้สิทธิตามกฎหมายพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ.2560 เพิ่มเติมอีกในจังหวัดเพชรบูรณ์ และจันทบุรี

โดยอ้างว่าเป็นสิทธิ ตามคำขอเดิมจึงเป็นการกระทำโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากกฎหมายพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ.2560 มาตรา 188 แม้จะยังคงสิทธ์ิเดิมไว้ให้กับผู้ยื่นคำขอก่อนท่ีจะประกาศใช้พระราชบัญญัตินี้ แต่ก็ให้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ อันหมายถึงต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2560 มาตรา 19 ประกอบมาตรา 21 อันหมายถึง คณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการแร่แห่งชาติ ต้องประกาศเขตแหล่งแร่และต้องจัดให้มีการประกาศเพื่อให้มีการประมูลแข่งขัน ตามกฎหมาย 

แต่การอนุญาตดังกล่าวของท่านไม่ได้ดำเนินการให้มีการประกาศเขตแหล่งแร่ และไม่ได้จัดให้มี การประมูลแข่งขันตามท่ีกฎหมายบัญญัติไว้ให้ครบถ้วนแต่อย่างใด ดังน้ัน การกระทำดังกล่าวของท่าน จึงเป็นการกระทำโดยผิดกฎหมาย ประกอบกับการที่ท่านได้เคยอนุญาตอาชญาบัตรพิเศษให้กับบริษัทอัคราฯ ในสมัยรัฐบาล นายทักษิณ ชินวัตร เมื่อปี 2549 จำนวน 5 แสนไร่ บัดน้ีกฎหมายพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ.2560 มาตรา 188 ประกอบมาตรา 19 และมาตรา 21

ส่งผลทำให้ อาชญาบัตรพิเศษเดิมท่ีเคยอนุญาตไว้ต้ังแต่ปี พ.ศ.2549 เป็นอันใช้บังคับให้เป็นสิทธิ์เดิมกับบริษัท อัคราฯ ต่อไปอีกไม่ได้ ซึ่งแม้ว่าจะเป็นสิทธ์ิเดิมที่เคยยื่นขอไว้ ตามมาตรา 188 แต่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย พระราชบัญญัติแร่ พ.ศ.2560 คือต้องประกาศเขตแหล่งแร่ และต้องเปิดให้มีการประมูลแข่งขัน เพื่อให้ผู้ชนะการประมูลได้สิทธิ์ในการยื่นขออาชญาบัตรพิเศษ ตามกฎหมายฉบับนี้

ด้วยเหตุน้ีอาชญาบัตรพิเศษดังกล่าวจึงเป็นสิทธิ์ที่ไม่อาจอนุญาตได้ ตามกฎหมายฉบับน้ี ด้วยเหตุน้ีอาชญาบัตรพิเศษ ที่ท่านเคยอนุญาตไว้ในปี 2549 จานวน 5 แสนไร่ จึงตกเป็นโมฆะตามกฎหมายฉบับนี้ อันส่งผลทำให้บริษัท อัคราฯ ไม่สามารถได้สิทธิเดิมที่เคยได้รับอนุญาตจากท่านในปี 2549 อีกต่อไป รวมถึงการอนุญาตอาชญาบัตรพิเศษ ของท่านท่ีอนุญาตให้กับบริษัทอัคราฯ ครั้งใหม่ในปี 2563 ก็เป็นการอนุญาตโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากเป็นการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2560 มาตรา 19 มาตรา 21 และมาตรา 188 แต่อย่างใด 

ซึ่งการอนุญาตดังกล่าวของท่านในครั้งนี้จึงเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมายฮั้วประมูล และเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมาย กฏ และระเบียบ คำส่ัง และมติคณะรัฐมนตรี จึงเป็น การกระทำความผิดเกี่ยวเนื่องกันในหลายกรณี ซึ่งข้าพเจ้าและคณะได้ยื่น ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อให้ดาเนินการสอบสวนดำเนินคดีเอาผิดกับท่านตามกฎหมายให้ถึงที่สุด ต่อไปแล้วในขณะนี้ และอยู่ระหว่างการสอบสวนดำเนินคดี 

ด้วยเหตุนี้จึงขอให้ท่านดำเนินการเพิกถอนอาชญาบัตรพิเศษ ท้ังหมดที่ท่านได้เคยดำเนินการอนุญาตไว้ ให้กับบริษัทอัคราฯ และบริษัทย่อย ทั้งหมดเพื่อให้สิ้นสิทธิ์ท่ีเคยได้รับไปตามกฎหมาย พระราชบัญญัติแร่ พ.ศ 2510 และพ.ศ. 2560 รวมถึงขอให้ยกเลิกเพิกถอนบรรดาคำขออาชญาบัตรพิเศษ อาชญาบัตรผูกขาด สารวจและทำเหมืองแร่ทองคำทั้งหมดเนื่องจากเป็นการขัดต่อกฎหมายพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ.2560 มาตรา 19 มาตรา 21และมาตรา 188 เนื่องจากเป็นคำขอท่ีไม่อาจอนุญาตได้ 

โดยขอให้ท่านดำเนินการเพิกถอนด่วนที่สุดภายใน 30 วันนับจากวันที่ท่านได้รับหนังสือฉบับน้ี และขอให้ดำเนินการแจ้งเรื่องการยกเลิกเพิกถอนคำขอ และอาชญาบัตรพิเศษ ดังกล่าวต่อหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง ซึ่งเป็นคณะกรรมการระงับข้อพิพาทในอนุญาโตตุลาการทุกหน่วยงานให้รับทราบ ตามข้อเท็จจริง และตามข้อกฎหมายของประเทศไทย รวมถึงขอให้แจ้งเรื่องการยกเลิกเพิกถอนคำขอ และอาชญาบัตรพิเศษ ไปยังสำนักงานกำกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อขอให้แจ้งไปยังตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศท่ัวโลกให้ทราบถึงข้อเท็จจริง จากการดำเนินงานตามอำนาจหน้าที่แฃะตามกฎหมายของประเทศไทย เพื่อเป็นการแจ้งแก่นักลงทุน หรือผู้ถือหุ้นทั่วโลก ให้เข้าใจอย่างถูกต้อง  ตามข้อเท็จจริงและตามข้อกฎหมายของประเทศไทย