นายเฉิน กล่าวว่า คณะกรรมการที่ปรึกษาของกระทรวงสาธารณสุข ได้ตัดสินใจสั่งระงับฉีดวัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทคเข็มที่ 2 แก่เด็กในวัยดังกล่าวเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าว ผู้เชี่ยวชาญจะพิจารณา กรณีการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบต่อเด็กในกลุ่มอายุดังกล่าวจำนวน 16 ราย หลังได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ก่อนที่จะทำการตัดสินใจขั้นสุดท้าย
ข้อมูลอ้างอิงจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขในสหรัฐฯ ระบุว่า กลุ่มเด็กอายุดังกล่าวมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหลังฉีดวัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทคเข็มที่ 2 สูงถึง 10 เท่า เมื่อเทียบกับเข็มแรก
ในขณะนี้ บางประเทศได้ปรับนโยบายการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในกลุ่มเด็กวัยดังกล่าวแล้ว โดย ฮ่องกง เปลี่ยนนโยบายฉีดวัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทค ให้แก่เด็กอายุ 12-17 ปี จำนวน 2 เข็มเหลือเพียงเข็มเดียว ขณะที่อังกฤษก็ได้แนะนำให้มีการฉีดวัคซีนเพียง 1 เข็มสำหรับเด็กวัย 12-18 ปี
ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมโรคระบาดไต้หวัน (CECC) กล่าวว่า คณะกรรมการที่ปรึกษาของกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการด้านการสร้างภูมิคุ้มกัน (ACIP) ได้ตัดสินใจที่จะหยุดการให้วัคซีนไฟเซอร์ เข็ม 2 ในกลุ่มอายุนี้เป็นเวลา 2 สัปดาห์ ในช่วงเวลานั้นผู้เชี่ยวชาญและแพทย์ของศูนย์ควบคุมโรค (CDC) จะพิจารณา โรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย 16 รายในวัยรุ่นหลังฉีด ก่อนตัดสินใจขั้นสุดท้ายว่าจะฉีดเข็มที่ 2 หรือไม่
“ข้อมูลระหว่างประเทศจะได้รับการปรึกษาก่อนการตัดสินใจขั้นสุดท้าย” ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมโรคระบาดไต้หวัน ( CECC กล่าว และเสริมว่า ขณะนี้เด็กอายุระหว่าง 12-17 ปี กำลังได้รับการฉีดวัคซีน 2 โดสทั่วโลก ยกเว้นในฮ่องกงและสหราชอาณาจักร
ส่วนวัคซีนโควิด-19 จะได้รับการอนุมัติสำหรับเด็กอายุ 5-11 ปีหรือไม่ โดยทางผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมโรคระบาดไต้หวัน CECC กล่าวว่า
"ในเรื่องนี้จะไม่ได้รับการพิจารณาจนกว่า จะมีการยุติปัญหาการให้วัคซีน โดสที่ 2 กับเด็กอายุ 12-17 ปีก่อน"