แก๊งกะเทยสุดเถื่อน-บุกตบตีสาวคาหอพัก

วันที่ 8 พฤศจิกายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากรณีเพจเฟซบุ๊ก “เจ๊ม้อย v plus ”ได้เผยแพร่คลิปเหตุการณ์ความรุนแรง โดยระบุข้อความว่า สาวโดนสาวประเภทสองรุม !! ยังงัยคุณก็คือผู้ชาย ไปทำร้ายผู้หญิงไม่ได้ ไม่ควรใช้ความรุนแรงในการยุติปัญหา ส่วนสาเหตุก็ขอฟังอีกฝ่ายว่าแท้จริงแล้วเกิดจากอะไร ยังงัยก็ไม่สนับสนุนความรุนแรงนะคะ 5 แยกโคกมะตูม พิษณุโลก วันที่ 2 ต.ค. คืนเกิดเหตุเวลาตี 2 ( ประมาณ ) มีคนๆ 1 ส่งเฟสมาหาหลานผมให้เอาของลงไปให้ที่หน้าหอพัก (หลานผมช่วยเพื่อนๆ ขายของเช่น พวกเครื่องสำอาง ) หลานผมเลยลงมากัน 2 คน แต่พอลงมาถึงก็ตามคลิปเลยคับแต่พวกนั้นมาเกือบ 10 คนยืนอยู่วงนอกประมาณ 3 - 4 ถ่ายคลิป 1 เข้ามารุม 6 ครับ ทำร้ายร้างกายทำให้เสียทรัพย์ เพราะโทรศัพท์ไอโฟน 7 พลัส พังยับเลย แรกๆ เจ็บบวม และดูเบลอๆ ถามไม่ค่อยรู้เรื่องแต่ตอนนี้ปกติแล้วคับ

 ส่วนคลิปที่ 2 เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดที่หอพักแห่งหนึ่งย่านตลาดโคกมะตูมเช่นกัน ระบุข้อความว่า ทำร้ายคนอื่นไปทั่ว สาวประเภทสองกลุ่มเดียวกันที่ทำร้ายร่างกายสาวที่หอพัก เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2564 ถัดมาไม่กี่วัน กลับไปรุมทำร้ายอีกคน ซึ่งหอพักอยู่ห่างกันไม่มาก สาวประเภทสองกลุ่มนี้มาพร้อมกับเพื่อนผู้หญิง เข้ามาถามหาผู้เสียหาย อ้างว่าแอบไปคุยกับเพื่อนชายที่เป็นแฟนตน ซึ่งฝ่ายผู้เสียหายไม่ได้มีจิตสัมพันธ์ด้วย และฝ่ายชายก็ไม่ได้รู้เห็นด้วยแต่อย่างใด และได้เข้ามารุมทำร้าย ทางตำรวจควรมีการจัดการกับคนกลุ่มนี้ด้วยนะคะ เป็นภัยสังคม พยายามระรานและทำร้ายคนอื่น ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม จิตใจพวกคุณทำด้วยอะไร ทั้งๆที่ไม่รู้จักกันแต่ยังมาทำร้าย คุณควรจะมีสติในการจัดการระบบทางด้านความคิด อารมณ์ ความรู้สึก ฝากหน่วยงานที่เกี่ยว ข้องเร่งจัดการด้วยค่ะ พิษณุโลก

คลิปที่ 3 เป็นคลิปสุดท้าย ระบุข้อความว่าวีรกรรมกลุ่มสาวประเภทสอง !!! ระรานคนอื่นไปทั่วอย่าเก่งกับผู้หญิงค่ะ เป็นพฤติกรรมที่สังคมรับไม่ได้ ควรสำนึกด้วยนะคะว่าคุณคือผู้ชาย คนประเภทนี้สมควรที่จะยอมความไกล่เกลี่ยมั้ยคะ พิษณุโลก วันที่ 26 ก.ย. คืนเกิดเหตุเวลา 18.17 น.หนูได้ออกไปซื้อของที่เเม็คโคร แล้วได้กลับมาที่หอพักกำลังจะขึ้นไปแล้วเรียกหนูให้หนูลงมาคุยกัน แต่ที่ให้ลงมาคุยกันก็น่าจะเกิดจากเรื่องที่หนูไปคุยกับคนเก่าของคนเสื้อสีส้ม เเล้วเขาบอกว่าหนูไปด่าเขาว่าอย่างโน้นอย่างนี้ ก่อนที่เขาจะเข้ามาทำร้ายหนูเขาได้ทักเเชทมา ตอนเเรกมาเเค่ 2 คน ไม่ได้ตกลงตอบโต้อะไร พอหนูไปซื้อของมาถึงหอเเล้วเขาได้ขับรถตาม บอกว่าให้ลงมาคุยกันพอหนูลงไปคุยแล้วนั่งที่โต๊ะ สักพักผู้หญิงหนึ่งคนเสื้อสีส้มๆ ก็เดินมาจิกหัวพวกหนู แล้วมีรุ่นพี่ที่หนูไปด้วยก็มาบังให้หนูมากอด สักพักก็มีกะเทยมารุมพวกหนูตามคลิปเลยค่ะ ซึ่งหลังจากมีการเผยแพร่คลิปดังกล่าวออกไปทางสื่อโซเชียลมีเดีย ปรากฏว่ามีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นถึงความไม่เหมาะสม และใช้ความรุนแรงในการตัดสินปัญหาของกลุ่มเยาวชน จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามกลุ่มผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว

ล่าสุด วันที่ 8 พฤศจิกายน 2564 น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี และ น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี พี่น้องฝาแฝด ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.ธนาพล เมฆบุตร สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก พร้อมให้ปากคำและนำคลิปหลักฐานมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมเปิดเผยว่า แก๊งสาวประเภท 2 ที่ลงมือก่อเหตุกับตนนั้น ตระเวนไปก่อเหตุกับหญิงสาวรายอื่นๆ ไปทั่ว สาเหตุเนื่องจากในกลุ่มนั้นมีผู้หญิงรายหนึ่งที่หึงหวงแฟนหนุ่มของตนเอง แต่เลิกรากันไปนานแล้ว ทักมาหาเรื่องตนทางเฟซบุ๊กและนัดมาเคลียร์ปัญหากันที่หอพักที่อาศัยอยู่ย่านตลาดโคกมะตูม 

โดยตนเองได้พักอยู่คนละห้องกับพี่สาวซึ่งเป็นฝาแฝด ยกพวกพากันมาเป็นจำนวนมาก กะเทย 4 คน ผู้หญิงอีก 2 คน มาถึงก็พูดจาด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ตนพยายามอธิบายให้ฟังว่าไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับแฟนหนุ่มของคนในกลุ่มของกะเทยเลย แต่ก็ไม่ฟังผลักประตูเข้ามากระชากตัวออกไปรุมตบตีอย่างบ้าคลั่ง พี่สาวตนที่อยู่ห้องข้างๆ ออกมาช่วยก็โดนทำร้ายไปด้วย มิหนำซ้ำมีผู้หญิงที่ตนไม่รู้จักและมากับกลุ่มกะเทยคว้าไม้กวาดมาฟาดอย่างแรงด้วย แฟนของตนที่อยู่ด้วยเข้าห้ามปรามก็ไม่เป็นผล 

หลังจากลงมือทำร้ายจนพอใจแล้วก็แยกย้ายกันกลับไป ต้องอยู่อย่างหวาดระแวงเพราะว่าถูกกลุ่มกะเทยขู่อาฆาตเอาไว้ว่าจะกลับมาทำร้ายอีก นอกจากนี้เจ้าของหอพักยังไล่พวกนั้นออกทันที เพราะว่าสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่นๆ ทั้งที่พวกตนพยายามอธิบายแล้วก็ตาม ว่าไม่รู้จักกะเทยกลุ่มนี้มาก่อนเลย จนตนและพี่สาวต้องหอบร่างอันสะบักสะบอมไปโรงพยาบาล ก่อนเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก เพื่อขอให้ดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด

ด้าน พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก เปิดเผยว่า คลิปที่เผยแพร่ออกมานั้น เกิดขึ้นมากว่า 1 เดือนแล้ว หลังผู้เสียหายเข้าแจ้งความได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข้อมูลและหลักฐาน พร้อมให้พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกผู้ก่อเหตุทั้งหมดรวม 6 คน มาสอบสวนแล้ว รวมถึงได้แจ้งความในข้อหาบุกรุกเคหะสถานในยามวิกาลและข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น และพบว่ากลุ่มผู้ต้องหายังไปก่อเหตุลักทรัพย์ที่ร้านขายเครื่องสำอางแห่งหนึ่งใน อ.เมืองพิษณุโลก แต่กลุ่มผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธในชั้นสอบสวน ซึ่งตำรวจมีพยานและหลักฐานสำคัญชัดเจนเพื่อเอาผิด จึงแจ้งข้อหาและส่งตัวฟ้องศาลให้คัดค้านการประกันตัวด้วย เนื่องจากเป็นการกระทำที่ต่างกรรมต่างวาระกันหลายครั้ง มีผู้เสียหายหลายรายเข้ามาแจ้งความเอาไว้ที่ สภ.เมืองพิษณุโลก เป็นการกระทำที่อุกอาจไม่เกรงกลัวกฎหมาย พร้อมฝากเตือนไปยังเยาวชนที่ชอบใช้ความรุนแรงในการตัดสินปัญหา และการถ่ายคลิปผู้อื่นมาลงประจานในสื่อโซเชียลมีเดียเพื่อความสะใจถือว่ามีความผิดและต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายไปด้วย

โดย มงคลเชาวราช ทั่งมั่งมี / พิษณุโลก