svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

เปิดมติ ครม.วางหลักเกณฑ์ใช้ “รถนำขบวน”

06 พฤศจิกายน 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สำหรับระเบียบและหลักเกณฑ์เกี่ยวกับ "รถนำขบวน" ไม่มีบัญญัติไว้ในกฎหมายฉบับใดอย่างชัดเจน มีเพียงหนังสือของสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ซึ่งออกตามมติ ครม. เมื่อปี 2540 เรื่อง "แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการขอใช้รถวิทยุตำรวจนำขบวนของบุคคลสำคัญ"

สาระสำคัญของแนวทางปฏิบัตินี้ เป็นการวางหลักเกณฑ์การใช้ "รถนำขบวน" นอกเหนือจากขบวนเสด็จพระราชดำเนิน และขบวนเสด็จของพระบรมวงศานุวงศ์ ซึ่งมีรถตำรวจนำขบวนตามปกติประเพณีอยู่แล้ว

 

สำหรับหลักเกณฑ์นี้ใช้สำหรับบุคคลอื่นๆ ที่สามารถใช้รถตำรวจนำขบวนได้เป็นประจำ หรือใช้ได้เป็นครั้งๆไป แยกเป็น

 

1.การใช้รถตำรวจทางหลวงนำขบวนเป็นประจำโดยปกติ หมายถึง ภารกิจปกติที่ต้องจัดรถนำขบวนโดยมิต้องร้องขอ ได้แก่

 

-ประธานองคมนตรี รัฐบุรุษ

 

-นายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา รองประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ศาลรัฐธรรมนูญ และศาลปกครองสูงสุด

 

-สมเด็จพระสังฆราช

 

-รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ผู้นำฝ่านค้านในสภาผู้แทนราษฎร และประธานกรรมการที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี

 

-ผู้เคยตำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

 

เปิดมติ ครม.วางหลักเกณฑ์ใช้ “รถนำขบวน”

 

 

2.การใช้รถตำรวจนำขบวนที่จะต้องได้รับอนุญาตใช้เป็นครั้งๆไป หมายถึงกรณีที่จะต้องร้องขอ สั่งการ และต้องอนุญาตตามระเบียบ ได้แก่

 

-ผู้แทนพระองค์พระราชอาคันตุกะ ประมุขของรัฐต่างประเทศ ผู้นำรัฐบาลต่างประเทศ เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ องคมนตรี ผู้นำทางศาสนาอื่น สมเด็จพระราชาคณะ 

 

-ขบวนที่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่สุดทางราชการที่จะเดินทางไปปฏิบัติภารกิจสำคัญที่เกรงว่าจะไม่ทันเวลา เช่น ผู้พิพากษา หัวหน้าศาล ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เป็นต้น

 

-ขบวนที่ซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้ตำรวจนำขบวนเพื่อความปลอดภัย เช่น รถนักเรียน ขบวนรถเดินทางไปประกอบศาสนกิจ หรือขบวนที่มีรถหลายคัน เป็นต้น

 

เปิดมติ ครม.วางหลักเกณฑ์ใช้ “รถนำขบวน”

 

 

 

สำหรับกรณีบุคคลทั่วไป มีหลักเกณฑ์ในการขอใช้รถตำรวจนำขบวน ดังนี้

 

-เส้นทางเป็นอันตราย เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุสูง หรือเส้นทางเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง 

 

-จำนวนรถในขบวน เช่น รถโดยสารไม่ประจำทาง จำนวน 8 คัน รถยนต์เก๋ง จำนวน 10 คัน หรือรถเก๋งและรถยนต์โดยสารไม่ประจำทางรวมกัน 10 คันขึ้นไป เป็นต้น

 

กรณีการร้องขอเป็นครั้งๆ ไปนั้น ถึงแม้จะมีจำนวนรถที่เข้าเกณฑ์การขอรถนำขบวนได้ แต่หากพิจารณาแล้วว่า ไม่เหมาะสม ก็จะไม่ได้รับอนุญาต และโดยทั่วไปการร้องขอจะได้คำตอบรับไม่เกิน 7 วัน

 

เปิดมติ ครม.วางหลักเกณฑ์ใช้ “รถนำขบวน”

 

ส่วนรถนำขบวนคณะทัศนศึกษา หรือไปทอดกฐิน ผ้าป่า มีขอเข้ามาเยอะมาก เป็นพันขบวน ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกองบังคับการตำรวจทางหลวง จะเลือกที่สำคัญ โดยเฉพาะที่มีเด็กเล็กร่วมอยู่ในขบวนจำนวนมาก

 

การขออนุญาตใช้รถตำรวจนำขบวน จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการพิจารณาหลักเกณฑ์อย่างเคร่งครัด มิใช่ให้ใครก็ได้ใช้สิทธิพิเศษเพื่อความสะดวกสบายส่วนตัว เพราะนอกจากจะส่งผลต่อความปลอดภัยบนท้องถนนแล้ว อาจสร้างภาพลักษณ์ไม่ดีในสายตาประชาชนได้

 

รถนำขบวนที่ถูกต้องตามระเบียบ มีเพียงตำรวจจราจรกลาง ตำรวจทางหลวง และตำรวจกองปราบเท่านั้น นอกเหนือจากนี้ทำไม่ได้ ต้องถูกเรียกตรวจ รวมถึงการนำรถขององค์กรการกุศลอื่นๆ หรือหมายถึงรถมูลนิธิต่างๆ มาใช้นำขบวนก็ไม่ได้ เพราะ "รถฉุกเฉิน" ไม่ใช่ "รถนำขบวน" เป็นคนละชนิดกัน

logoline