ย้อนรอย คดีใช้รถหลวง ถอดบทเรียน "หมอบุญ"

จากกรณีที่หญิงสาวรายหนึ่ง โพสต์คลิปขณะขับรถผ่านเส้นทางถนนกำแพงเพชร ในช่วงเวลาเร่งด่วน ไปพบกับจักรยานยนต์ของตำรวจนำรขบวนรถเบนซ์VIP โดยตำรวจส่งสัญญาณมือให้รถของเจ้าของคลิปเบี่ยงหลบทางซ้าย แต่หญิงเจ้าของคลิป ยืนยันไม่หลบให้กับขบวนดังกล่าว ทำให้สังคมออนไลน์ วิจารณ์ และในต่อมา น.พ.บุญ วนาสิน หรือ “หมอบุญ” ยอมรับว่านั่งมาในรถเบนซ์ค้นดังกล่าว และไม่ได้สวนเลนเพราะเป็นวันเวย์ ในช่วงเวลาเร่งด่วน 

ซึ่งหมอบุญ ชี้แจงด้วยว่า สารวัตรจราจรคนดังกล่าวไม่ใช่ตำรวจนำขบวน แต่ล่าสุดมีข่าวว่า สารวัตรจราจรสน.ทองหล่อ ถูกสั่งย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 เป็นที่เรียบร้อย แล้ว

กรณีการนำรถราชการไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว เคยมีกรณีอดีตคณบดีคณะแพทยศาสตร์แห่งหนึ่ง สั่งให้เจ้าหน้าที่ไปช่วยจัดเตรียมงานแต่งงานบุตรสาวของตน โดยนำเก้าอี้พร้อมปลอก กระถางต้นไม้ กล้องวิดีโอ โทรทัศน์ สายสัญญาณ ขาตั้ง กล้องมอนิเตอร์ กล้องถ่ายรูป ชุดสวิตเชอร์ เครื่องเล่นและบันทึกดีวีดี ไปใช้ในการจัดงานฯ และนำรถยนต์ส่วนกลางไปใช้ขนของและรับส่งเจ้าหน้าที่ไปที่บ้านของตน ซึ่งทรัพย์สินที่นำไปใช้ทุกอย่างเป็นของคณะแพทย์ศาสตร์ฯ

คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ชี้มูลความผิด เบื้องต้นผู้ถูกกล่าวหาให้การปฏิเสธ แต่ต่อมาได้ยื่นคำร้องให้การรับสารภาพในภายหลัง พนักงานอัยการเป็นโจท์ยื่นฟ้องอดีตคณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ฯ เป็นจำเลยในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริตอันเป็นการเสียหายแก่รัฐ และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตร 151 และ 157 

การกระทำของจำเลยดังกล่าว เป็นการใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต นำทรัพย์สินต่างๆ ของคณะแพทย์ศาสตร์ฯ ไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัว อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ และคณะแพทย์ศาสร์ฯ 

ศาลอาญาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การกระทำของจำเลย เป็นการทุจริตในตำแหน่งหน้าที่ พิพากษาจำคุก 5 ปี ปรับ 2 หมื่นบาท แต่จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุกเหลือ 2 ปี 6 เดือน ปรับ 1 หมื่นบาท เมื่อพิเคราะห์พฤติการณ์ความร้ายแรงแห่งคดีแล้วเห็นว่าเมื่อจำเลยทราบการกระทำของตนและพยายามบรรเทาผลร้ายที่เกิดขึ้น โดยการชดใช้ค่าเสียหายแล้วในทันที ประกอบกับจำเลยรับราชการเป็นแพทย์มานาน ทำคุณความดีให้แก่หน่วยงานและประเทศชาติมาโดยตลอด ทั้งจำเลยมิเคยกระทำความผิดอาญาใดๆ และไม่เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงรอให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี 

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เปิดเผยว่า กรณีตำรวจขับรถนำขบวนรถเบนซ์VIP จะต้องดูข้อเท็จจริงก่อนว่า เอกชน มีการทำหนังสือร้องขอมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือสถานีตำรวจ หรือไม่ เพราะมีระเบียบให้ขอใช้รถนำขบวนได้ รวมถึงตรวจสอบว่า มีการอนุญาตจากผู้บังคับบัญชาหรือไม่ และรถคันดังกล่าวเป็นรถทางราชการหรือไม่ ดังนั้น จึงนำคดีที่ ป.ป.ช. เคยชี้มูลอดีตคณบดีคณะแพทยศาสตร์แห่งหนึ่ง เรื่องการนำรถราชการไปใช้ในภารกิจส่วนตัว ได้