พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ซึ่งต้องรอดูว่าที่ประชุมฯจะมีมาตรการแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างไร หลังผู้ประกอบการภาคขนส่งเคลื่อนไหวเรียกร้องให้รัฐบาลมีการปรับโครงสร้างราคาน้ำมันเชื้อเพลิง
ขณะที่ทางกระทรวงพลังงาน จะรายงานแนวทางบรรเทาผลกระทบค่าครองชีพประชาชนจากน้ำมันแพงทั้งการกู้เงินภายใต้พ.ร.บ.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงพ.ศ.2562 ที่ให้สิทธิกู้ได้ไม่เกิน 2 หมื่นล้านบาทมาตรึงราคน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาท/ลิตร ไปจนถึงเมษายน 2565 จากนั้นจึงจะเสนอคณรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติต่อไป
พร้อมกันนี้จะเสนอขอลดเงินนำส่งเข้ากองทุนส่งเสริมเพื่อการอนุรักษ์พลังงานจาก 10 สตางค์ต่อลิตรเหลือ 5 สตางค์ต่อลิตรเป็นเวลา 1-2 ปี เพื่อช่วยลดผลกระทบราคาน้ำมันแพงอีกทาง
ด้านแหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง ระบุ ข้อเรียกร้องของสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ที่ต้องการให้รัฐบาลช่วยตรึงราคาน้ำมันดีเซลขายปลีกให้อยู่ที่ 25บาท/ลิตร จากปัจจุบันที่ราคาขายปลีกดีเซลอยู่ที่ 30 บาท/ลิตร โดยให้กระทรวงการคลัง ปรับลดภาษีน้ำมันดีเซลลง 5 บาทนั้น หากทำตามข้อเรียกร้องนี้ จะทำให้กระทรวงการคลังสูญเสียรายได้จากภาษีน้ำมันไปถึง 1.5 แสนล้านบาท ซึ่งกระทบฐานะการคลังของรัฐบาล เนื่องจากไม่สามารถหารายได้จากแหล่งอื่นมาชดเชยได้
ปัจจุบันรัฐบาลใช้เงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลขายปลีกลิตรละ 2 บาท ทำให้ราคาน้ำมันดีเซลขายปลีก สามารถตรึงอยู่ที่ 30 บาท/ลิตร แทนที่จะเป็น 32 บาท/ลิตร ซึ่งปัจจุบันกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีเงินอยู่ 7 พันล้านบาท คาดว่าจะสามารถตรึงราคาน้ำมันดีเซลขายปลีกให้อยู่ที่ 30 บาท/ลิตร จนถึงสิ้นปีนี้ และทางสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เสนอที่จะกู้เงินเพื่อเติมเงินใส่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอีก 2 หมื่นล้านบาท เพื่อสำรองไว้กรณีที่ต้องใช้เงินจากกองทุนมากกว่า 7 พันล้านบาท เพื่อตรึงราคาน้ำมันดีเซล