5 พฤศจิกายน 2564 นายบัญชาการ พลชมชื่น เกษตรกรผู้ปลูกข้าวเหนียว ในพื้นที่ อ.สารภี จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า เชียงใหม่ มีพื้นที่ปลูกข้าวประมาณ 510,000 ไร่ในจำนวนนี้เป็นพื้นที่ปลูกข้าวเหนียวมากกว่าร้อยละ 90 และกำลังได้รับผลกระทบราคาตกต่ำ โรงสีรับซื้อข้าวเปลือกเหนียวความชื้นไม่เกินร้อยละ 26 อยู่ที่กิโลกรัมละ 5 - 5.90 บาท จากเดิมที่เคยรับซื้อในราคา 10-12 บาท โดยให้เหตุผลว่ามีข้าวค้างในสต็อกอยู่จำนวนมาก
ประกอบกับอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 การส่งออกทำได้ยากลำบาก ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวได้รับผลกระทบ
ส่วนตัวเองทำการปลูกข้าวเหนียวแบบเกษตรอินทรีย์ ไม่ใช้สารเคมี 10 ไร่ ปีนี้ราคาข้าวเหนียวตกต่ำ ขายข้าว 1 กิโลกรัม ได้ราคาต่ำกว่าบะหมี่สำเร็จรูป 1 ซอง ทำให้ได้รับผลกระทบอย่างหนัก
ที่ผ่านมาเมื่อต้นเดือนตุลาคม 2564 ได้รวมตัวกันเพื่อขอเรียกร้องขอให้ทางรัฐบาลช่วยเหลือเกษตรกร เพื่อไม่ให้เกิดภาวะขาดทุน และขอให้ช่วยเขียวยา เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ที่กำลังได้รับความเดือดร้อน โดยขอให้มีการรับซื้อข้าวเปลือกเหนียวที่ความชื้นไม่เกินร้อยละ 26 ในราคาไม่ต่ำกว่า กิโลกรัมละ 10 บาท
พร้อมทั้งขอให้ช่วยเหลือจ่ายค่าชดเชยเยียวยาแก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ที่ได้รับผลกระทบจากราคาข้าวเปลือกตกต่ำไร่ละ 3,000 บาท ต่อครัวเรือน ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ไร่ และขอให้พักชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 3 ปี
นายประสงค์ พรมเมือง เกษตรกรผู้ปลูกข้าวเหนียวอ.สารภี จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ได้ปลูกข้าวเหนียวไว้บนพื้นที่ 7 ไร่ ซึ่งได้ทำการเก็บเกี่ยวข้าวเปลือกเหนียวนำไปจำหน่ายแล้วในราคา 6 บาท ได้เงินรวม 13,380 บาท จากเดิมที่เคยได้ในราคากิโลกรัมละ 10-12 บาท เมื่อรวมกับต้นทุนการปลูกและจ้างรถเพื่อเก็บเกี่ยวแล้ว เหลือเงินเพียงเล็กน้อยไม่เพียงพอกับการชำระหนี้สินที่กู้ยืมมาลงทุนปลูกข้าว จึงต้องหารายได้จากส่วนอื่นมาเพื่อชำระหนี้ จึงอยากให้ภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรเพื่อให้หลุดพ้นจากการเป็นหนี้
นายกิตติศักดิ์ จันทร์ไพศรี เกษตรกรผู้ปลูกข้าวเหนียว อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ได้ปลูกข้าวไว้บนพื้นที่ 10 ไร่ มีต้นทุนในการปลูกข้าวประมาณ 40,000 บาท โดยจะเริ่มทำการเก็บเกี่ยวในวันที่ 10 พ.ย. 64 นี้ ซึ่งต้องมีค่าจ้างรถเก็บเกี่ยวอีกประมาณ 6,000 บาท และ รถขนข้าวเพื่อนำไปขาย อีกประมาณ 5,000 บาท เมื่อรวมต้นทุนทั้งหมดแล้วอยู่ที่ประมาณ 51,000 บาท
เมื่อราคาข้าวตกต่ำเหลือประมาณกิโลกรัมละ 5 บาท คาดว่าจะขายข้าวได้ประมาณ 30,000 – 40,000 บาท เท่านั้น ซึ่งขาดทุนอย่างแน่นอน จึงอยากขอให้ทางภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรผู้ปลูกข้าว และขอให้ช่วยเรื่องพักชำระหนี้เป็นเวลา 3 ปี ประกันรายได้ #ประกันราคาข้าว #ประกันรายได้