2 พฤศจิกายน 2564 ม้าตัวเต็งในการเข้าชิงผู้ว่าฯกทม. แต่สุดท้ายตัวเต็งก็ถอนตัว ปรากฏการณ์ถอนตัวของคุณจักรทิพย์ ชัยจินดา ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. กลายเป็นประเด็นร้อนว่าเกิดอะไรขึ้น และสุดท้ายปลายทางคู่ชิงในศาลาว่าการกทม.จะเหลือแค่นี้ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รออีกหนึ่งคนตัวแทนจากพรรคก้าวไกลว่าจะส่งใคร
กทม.ต้องอาศัยคนที่จะบริหารเมือง มาดูโพลล์อยากได้ใครเป็นผู้ว่าฯ
ปรากฏการณ์ของคุณจักรทิพย์ ชัยจินดา กลายเป็นประเด็นใหญ่ว่าแล้วในสนามกทม. ที่แต่ละครั้งเวลาเลือกตั้งคะแนนจะอยู่ประมาณ 7 แสนกว่า ตอนหลังทะลุขึ้นไป 1 ล้าน ฐานเสียงพื้นที่กทม.เป็นของประชาธิปัตย์
เพราะฉะนั้นพื้นที่ในสนามกทม.ระลอกนี้ที่ใครบอกว่าน่าจะเป็นตัวเต็ง ท่าทางจะดุเดือด อย่างที่เห็นเพื่อไทยไม่ใช่ฐานของผู้ว่าฯกทม.
คุณจักรทิพย์ ที่ถอนตัวไป บอกอะไรเราหลายอย่าง ประเด็นแรกดูสถานะก่อน ผู้ว่าฯกทม.คนปัจจุบัน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง
แต่การออกมาประกาศว่าคุณจักรทิพย์ ที่ถอนตัวเรื่องใหญ่จะไปอยู่ที่พปชร. เอฟเฟคมีหลายปัจจัยที่คุณจักรทิพย์ ถอนตัว หัวใจหลักกระทบมาจากศึกภายในพลังประชารัฐ กระทบไปถึงตัวคุณจักรทิพย์ ต้องตัดสินใจถอนตัว เคยมีข่าวก่อนหน้านี้แล้วว่าจะถอนตัว แล้วทำไมคุณจักรทิพย์ ถอนตัว ?
วันนี้นักข่าวไปถามบิ๊กป้อม ทำไมพลังประชารัฐไม่ส่งผู้ว่ากทม.
ประเด็นต่อมาสัญญาณหนึ่งที่จากปากคุณจักรทิพย์ คือรอสัญญาณบางอย่างที่จะลงไปสู่สนามใหญ่ เพราะพ้นตำแหน่งมาตั้งปี 63 รอไปเล่นการเมืองระดับชาติ แต่ปัจจัยของการตัดสินใจไม่ลงชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม.นั้น spotlight กลายเป็นไปจับที่ 2 คนทันที คนแรกคุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์
ส่วนคู่ต่อกลอน คุณสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ฐานเสียงคนรุ่นใหม่เหมือนกัน เป็นนักบริหาร เป็นผู้มีวิสัยทัศน์ใกล้เคียงกัน ต่างกันคือ อ.เอ้มีปชป.หนุนหลังชัดเจน
ต่อมาให้จับตาประเด็นหนึ่ง ก่อนหน้านี้ผู้ว่าฯหมูป่าเข้าพบลุงป้อมมาแล้วอย่างน้อย 2 ครั้ง แต่ว่ากันว่าฝีมือและเทคนิควิธีการบริหารจัดการกระบวนการตัดสินใจเข้าตากรรมการอย่างมาก เพราะฉะนั้นที่บอกว่าพปชร.จะไม่ส่งผู้สมัครเข้าแข่งขันในการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.นั้นอย่าพึ่งปิดประตู รอดูสถานการณ์ร้อนหลังจากนี้ไป ทั้งสนามเล็ก สนามใหญ่ การเมืองเขาว่าคึกคักทีเดียว
ในแวดวงการเมืองถึงตอนนี้ มีการพูดกันใน 2 ประเด็น ประเด็นแรกพรรคพลังประชารัฐสงบศึกชั่วคราวแล้ว ทางที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเดินจะไปอย่างไร อีกท่านหนึ่งทางของคุณทักษิณ ชินวัตร สุดท้ายแนวทางการขับเคลื่อนของพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่การรีแบรนด์และการออกมารณรงค์เรื่องของการแก้กฎหมาย 112 กำลังจะทำอะไร เส้นทางของคุณทักษิณกำลังคิดอะไรอยู่
ทั้งทางของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และทางของคุณทักษิณ ชินวัตร ต้องบอกว่าล้วนแล้วแต่เป็นเส้นทางที่จะไปบรรจบกันอยู่ที่เดียว นั่นคืออำนาจในการบริหารประเทศ
คุณทักษิณ ชินวัตร ตอนนี้ต้องบอกว่าเดินเกมหนักหน่วงที่สุด ในขณะที่พลเอกประยุทธ์ ดูเหมือนอ่อนแรงอ่อนล้าลงไปมากที่สุด เพราะปัญหามาจากในพรรคพลังประชารัฐ ถ้าพลังประชารัฐยังคงเหนียวแน่นเข้มแข็งเหมือนตอนสนับสนุนพลเอกประยุทธ์เมื่อตอนปี 62 เหตุการณ์วันนี้จะไม่เกิด และความเข้มแข็งของเพื่อไทยก็จะไม่เกิดเช่นกัน
สถานการณ์ตอนนี้พลเอกประยุทธ์จะเดินไปทางไหน
หากเป็นเช่นนี้ พลเอกประยุทธ์จะจบเกมทางการเมืองตามวาระ คือ 8 ปี ทางคุณทักษิณก็มี 3-4 แนวทางที่กำลังวางบตอนนี้
การรีแบรนด์โดยอาศัยสีนำ เป็นสัญลักษณ์หนึ่งในการปรับและกำลังจะบอกว่าทางที่จะไป ไปทางไหน ต่อมารีแบรนด์ผ่านคนรุ่นใหม่ คุณทักษิณพูดมาตลอดที่ใช้คำว่าโทนี่ เป็นยุคของคนรุ่นใหม่ บวกกับแคมเปญพรุ่งนี้ พรุ่งนี้ก็คือเป็นเรื่องของคนรุ่นใหม่ ไม่ใช่คนรุ่นเก่า เป็นหลักของการตลาดก็คือตัวโลโก้นำไปสู่หัวใจแก่นของเรื่องชัดเจนว่าจะไปทางไหน เพราะฉะนั้นตรงนี้รีแบรนด์ชัดเจน
มาครั้งนี้เห็นจุดอ่อนข้อเรียกร้องจากมวลชนต่างๆ ต้องการปฏิรูปและเรียกร้องเรื่อง 112 ทั้งๆที่เพื่อไทย ไม่เคยขับเคลื่อนเรื่องนี้เลยมีแต่ก้าวไกลขับเคลื่อนเรื่องนี้มาตลอด แต่เห็นแล้วว่าเป็นฐานเสียงสำคัญที่ต้องแย่งกับก้าวไกล จึงเป็นที่มาของปรับนโยบาย ปรับนโยบายโดยการหันมาว่าด้วยเรื่องของ 112 การปรับนโยบายหมายถึงท่าทีของพรรคด้วยและการกำหนดทิศทางของพรรคที่จะดึงมวลชนจากกลุ่มเหล่านั้นมาด้วย
แถลงการณ์ชุดนี้เป็นเครื่องยืนยันได้ดีว่าพรรคเพื่อไทยในยุคนี้ปรับ และทางคุณทักษิณเองก็ปรับ ผูกร้อยเข้าไปด้วยกันระหว่างพรรคกับตัวคุณทักษิณ ตอนนี้ต้องรอคุณทักษิณจะออกมาพูดเรื่อง 112 และ 116 เมื่อไหร่ เพราะตอนนี้ใช้คุณชัยเกษมออกมาพูดก่อน เหมือนในนามพรรค รอดูคุณทักษิณว่าจะเคลียร์ตรงนี้อย่างไร
เพื่อไทยจะแลนด์สไลด์ได้ไหม ? จะแลนด์สไลด์ได้ต้องทำบันไดทีละขั้นก่อน ถ้าได้ฐานเสียงจากก้าวไกลเข้ามาก็ยิ่งแลนด์สไลด์ได้ และยิ่งความได้เปรียบเรื่องกติกาบัตร 2ใบ ฉะนั้นทางของคุณทักษิณอาศัยความถนัด ความเชี่ยวชาญในเรื่องของตัวพรรค ในเรื่องความเชื่อมั่นของคนมาเป็นบันไดเดินเข้าไปสู่กระบวนการทางอำนาจ
คุณอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร พูดชัด คุณทักษิณอยากกลับบ้าน อยากกลับมากราบขอบคุณผู้มีพระคุณคือประชาชน
เพราะฉะนั้นเส้นทางเดินของพลเอกประยุทธ์ กลับเส้นทางเดินของคุณทักษิณ ชินวัตรหลังจากนี้ไปต้องติดตามให้ดีเมื่อฝ่ายหนึ่งอ่อนแรงฝ่ายหนึ่งเริ่มลุก
ที่มา เนชั่นอินไซต์ บากบั่น บุญเลิศ และ วีระศักดิ์ พงศ์อักษร